By Atiyanee Mathayomchan / Dr Chatdanai Musigchai
Chim Thai Chef of Chim Bangkok 2014
ชิมไทยในงานชิมแบงค็อก
ดินเนอร์ชิมไทยคืนนี้ รวมพลเชฟคนดังในบ้านเรา ดูรายชื่อแล้ว แต่ละคนล้วนเป็นมือระดับเซียนด้านอาหารไทย งานนี้พร้อมใจกันออกมาโชว์ลวดลายใส่ฝีไม้ลายมือ เพื่องานชิมแบงค็อก ผสานกำลังกันสร้างสรรค์เมนู 7 คอร์ส เสริฟในแบบตะวันตก ทั้งตื่นตาตื่นใจ และสอดใส่ความเป็นศาสต์และศิลป์ ประกาศให้โลกรู้กันไปเลยว่าอาหารไทยทั้งอร่อยและสวยได้ อย่างเป็นที่หนึ่งไม่แพ้ใคร
เร่ิมกันด้วยค็อกเทลในสวนสวยของโรงแรมดุสิตธานี ทักทายสังสรรค์เรียกน้ำย่อยกันพอหอมปากหอมคอแล้ว จึงเคลื่อนตัวไปยังห้องอาหารเบญจรงค์อันเป็นที่จัดงาน เข้านั่งประจำที่กันด้วยใจจรดใจจ่อ รอดูว่าเชฟแต่ละคนจะรังสรรค์เมนูใดมาเซอร์ไพรส์
ว่าแล้วจานแรกก็มาเสริฟ เป็น ลาบทูน่า ซัลซ่าอะโวคาโดกับลอบสเตอร์ ขนมจีบไทยไส้ไก่และกุ้ง ฝีมือของ เชฟนูรอ สเต็ปเป้ แห่ง Blue Elephant
ออร์เดิฟจานนี้จัดแต่งสวยงาม สมฝีมือระดับอินเตอร์ของ Blue Elephant คอนเซ็ปต์ คือ อาหารไทย 3 ยุค เชฟนูรอ แนะนำให้เร่ิม ด้วย ขนมจีบไทยโบราณ ที่น่าจะใช้แป้งข้าวเจ้านวด ไม่ใช่แป้งเกี๊ยว ตัวแป้งจีบเป็นริ้วสวยงามใส่โทนสีม่วงอ่อน แล้วสอดไส้ด้วยกุ้งและไก่บด วางมาบนแผ่นแป้งทอด รสออกเค็มนิดเดียว
ตามด้วยลาบทูน่า ปลาทูน่าหั่นออกเป็นชิ้นเล็ก ๆ เสริฟมาบนใบอองดีฟชนิดขาว รสจึงไม่ค่อยออกขม ตัวลาบปรุงรสได้เผ็ด จัดจ้านได้ใจดีมาก
ปิดท้ายเป็นอะโวคาโด กับลอบสเตอร์ ใส่มาถ้วยแก้วใสสวยงาม ด้านล่างเป็นซัลซ่าอะโวคาโด เคียงกับลอปสเตอร์ช้ินค่อนข้างใหญ่วางด้านบน รสจานนี้ออกกลาง ๆ โดดเด่นด้วยการแพร์ความสดใสของซัลซ่ากับความสดชื่นของซีฟู้ด
โดยรวมเข้ากันได้ดีกับไว์โรเซ่ Zadetto NV, Private Rose
จานสอง เป็น ยำปลาดุกฟู กับคัสตาร์ดรสต้มยำ สร้างสรรค์ โดย เชฟ มอร์เทน นีลสัน แห่งห้องอาหารเบญจรงค์ ตกแต่งสวยงามทันสมัยด้วยเครื่องจานชามในแบบตะวันตก ตัวคัสตาร์ด อยู่ในชามแก้วใสด้านล่าง ส่วนปลาดุกฟู หรือ Crispy Catfish อยู่ในกรวยสามเหลี่ยมด้านบน
เวลาทาน จะเทปลาดุกฟูมาคลุกรวมกับต้มยำด้านล่าง ปลาดุกฟูทอดได้กรอบร่วน รสชาติดี เสริมด้วยมะม่วงขูดเป็นร้ิวบาง ๆ ออกเปรี้ยวหน่อยให้รสสดชื่น ส่วนคัสตาร์ดต้มยำ โรยหน้าสวยงามด้วยเนื้อปูช้ินเขื่อง รสชาติออกกลาง ๆ ไม่ถึงกับเผ็ด เป็นจานคอมบิเนชั่นที่ผสานกันได้ดี
จานสาม เป็น ลอปสเตอร์แช่นำ้ปลา ฝีมือเชฟ ต้น ธิติฏฐ์ ทัศนาขจร (Thitid Tassanakajohn) น้องใหม่ไฟแรงแห่งร้าน Ledu หน้าตาจานนี้ดูยังไง้ก็ไม่เหมือนกุ้งแช่นำ้ปลา แต่วัตถุดิบและรสชาติอยู่ครบ เครื่องปรุงเลือกใช้กั้งใหญ่หรือกุ้งหินแช่นำ้ปลา กุ้งมีความสดอร่อย เนื้อค่อนข้างแน่น แอบเหนียวหนึบนิดนึง ที่หมายความว่าสดอร่อย เคียงด้วยผักสลัดเขียว กระเทียม แตงกวาฝานเป็นชิ้นบาง และที่โดดเด่นคือ Spicy Cilantro Snow ที่ดึงแรงบรรดาลใจมาจาก Molecular Cuisine ผักชีทำเป็นนำ้แข็งสีเขียวใส กินแล้วละลายในปาก เคียงด้วยครีมกระเทียม และซอสเจลลี่ออกหวาน ๆ รสชาติน่าสนใจ
ไวน์คู่กับจานนี้เป็น Escarpment 2009, Chardonnay
จานต่อมาเป็น ข้าวตังหน้าปูกับซุบข้าวโพดหวานโรยด้วยฟัวกราส์ สร้างสรรค์โดย เชฟ หนุ่ม Nelson แห่งร้านโอชา
ซุปสีออกเหลืองมีความหวานของข้าวโพดชัดเจนมาก แต้มด้วยกลิ่นเครื่องเทศนิดนึง ที่เห็นเป็นก้อนกลม ๆ คือข้าวตังออกกรอบ ๆ โรยหน้าด้วยผงฟัวกราส์ และเนื้อปู จานนี้ ไอเดียดี เข้าใจคิด รสชาติหวานนำ คอนเฟิร์มเลยว่าอร่อยมาก
ไวน์เข้าคู่เป็น Penfold Koonunga Hill 2011, Autumn Riesling
มาชิมฝีมือ Bo & Dilan แห่ง Bolan กันบ้าง จานนี้เป็นขนมจีนรักษา สูตรได้มาจากหนังสือโบราณ อายุกว่า 50 ปี ชื่อเลยอาจไม่คุ้นหู ลักษณะ เหมือนน้ำยาผสมน้ำพริก แม้มีความเผ็ดแต่ไม่ได้ข้นมาก ใส่เนื้อไก่ฉีกที่เห็นเป็นสีขาว รสเยี่ยม เด่นเปรี้ยวซ่อนไว้ด้วยความหวานและความเค็ม
จานนี้แพร์กับไวน์ Domaine Arnoux-Lachaux Bourgogne Pinot Fin
เมนคอร์ส เป็น ฝีมือของ เชฟเดวิด ทอมป์สัน แห่งห้องอาหารน้ำ ประกอบกันมาด้วยอาหาร 3 จาน มีปลาหมึกแดดเดียวรสกรอบและเค็ม แกงดอแนจากภาคใต้ ลักษณะคล้ายแกงกะหรี่ รสออกเปรี้ยว ๆ เค็มนิดเดียว รสไม่จัดมาก เข้ากันได้ดีกับเนื้อค่อนข้างแน่นของปลาจาระเม็ด ปิดท้ายด้วยหมูหวาน รสเข้มข้น อร่อยสุด ๆ ทั้งหมดให้ทานกับข้าวสวยร้อน ๆ ที่เป็นข้าวสั่งมาจากสุรินทร์ หุงในน้ำผสมมะลิและใบเตย ผสานกันเลิศรสมาก
สุดท้ายของหวาน จากเชฟชุมพล แจ้งไพร เชฟกระทะเหล็ก แห่ง Siam Wisdom มีด้วยกัน 4 อย่าง ละลานตาด้วยข้าวตูข้าวตอกหอมรัญจวนใจ ข้าวเหนียวมะม่วงในแบบคลาสสิกปั้นเป็นก้อนขนาดพอคำ ตามด้วยการครัวแบบ innovative คือ souffle กล้วยบวดชีใส่มาในถ้วย แล้วจบด้วยเชอร์เบทส้มซ่า