IMG_1708

“Whispers of the Land”, Sra Bua by Kiin Kiin’s New Exquisite Menu to Celebrate the Richness of Thai Terroir

IMG_1683Sra Bua By Kiin Kiin Head Chef Chayawee Sutcharitchan

Photos : Gift Hem 

สระบัว บาย กินกิน เป็นห้องอาหารที่ประทับใจทุกครั้งที่มา  ชอบความ elegance  สวย  ดูดี มีคลาส  ครบถ้วนในทุกมิติ  บรรยากาศเรียบหรู  อบอุ่น ละมุนตา  อาหารดีไซ์สวยงาม พิถีพิถัน รสชาติดีงามแบบไม่ต้องพูดถึง  และสุดท้ายการบริการใส่ใจแบบวีไอพีที่สำราญใจ

เมนูล่าสุดที่มาชิมในค่ำคืนนี้ให้ชื่อว่า “Whispers of the Land”  เน้นการใช้วัตถุดิบท้องถิ่น ผสานกรรมวิธีและแนวคิดแบบตะวันตก  โชว์ความรุ่มรวยผืนดินและผืนน้ำแผ่นดินไทย  ดังที่เคยกล่าวกันว่า ในน้ำมีปลาในนามีข้าว  โดยเชฟเฮนริค อูล แอนเดอร์เซน (Henrik Yde-Andersen) เจ้าของแบรนด์ Kiin Kiin  ดีกรีเชฟมิชลินคนแรกด้านอาหารไทยร่วมสมัย  รังสรรค์ร่วมกับเชฟประจำห้องอาหาร เบิ้ม ชยวีร์ สุจริตจันทร์

ปีนี้  สระบัว บาย กินกิน ฉลองโอกาสครบรอบ  15  ปีนับแต่เปิดตัวมา  เลยอยากขอเล่าอดีต  ย้อนกลับไปปี  2010  มีความบังเอิญที่เป็นโชคดีของวงการอาหารไทย  เมื่อเชฟมิชลิน  2  คน เป็นฝรั่งทั้งคู่ มาเปิดร้านอาหารไทยที่บ้านเราในเวลาไล่เลี่ยกัน

IMG_1704

คนแรกเชฟ เดวิด ทอมป์สัน (David Thompson) เชฟออสเตรเลีย แห่งร้าน น้ำ กรุงลอนดอน มาเปิดร้านย่านสาธร โด่งดังมากเพราะเป็นเชพคนแรกของโลกที่ติดดาวมิชลินด้านอาหารไทย  โดยเป็นสำรับแบบไทยแท้

ส่วนอีกคนคือ  เชฟเฮนริค อูล แอนเดอร์เซน จากโคเปนเฮเกน เดนมาร์ก  เปิดสระบัว บาย กินกิน ที่สยามเคมปินสกี้  โดย Kiin Kiin โคเปน  ติดดาวมาก่อนแล้ว   แม้จะได้รับดาวมิชลินอาหารไทยเป็นคนที่สองต่อจากเดวิด ทอมป์สัน  แต่เชฟเฮนริคเป็นผู้บุกเบิก และเป็นเชฟมิชลินอาหารไทยสไตล์ร่วมสมัยคนแรก    ที่ส่งให้อาหารไทยแนวใหม่นี้ดังไปทั่วโลกเช่นกัน

01. The Two Chefs_Sra Bua by Kiin KiinChef Henrik Yde-Andersen  & Chef  Chayawee Sutcharitchan (Photo: Sra Bua by Kiin Kiin) 

เจอกับเชฟเฮนริคครั้งแรก  ตอนสระบัวเปิดใหม่ ๆ  เชฟมาปรุงอาหารเอง  เป็นครั้งแรกของสำรับไทยโมเดิร์น  ตื่นเต้นกันมาก  อาหารอร่อย    จานดังเป็นที่ฮือฮา  คือแกงเขียวหวานเนื้อ   รสชาติ กลิ่น  จัดจ้าน  คือเขียวหวานชัดเจนแน่นอน  แต่หน้าตานั้นไม่ใช่  เชฟเปลี่ยน texture  จากแกง  ตีเป็นมูสเนื้อเนียน  น่าจะเสิร์ฟมาในถ้วยกระถางอะไรสักอย่างแลัวปักแครอทกลับหัวไว้ด้านบน  อีกจานก็คือแกงแดง frozen เสิร์ฟท่ามกลางหมอกควันในแนวโมเลคิวลาร์   ตอนนั้นเป็น  controversial ถกเถียงกันน่าดู  หน้าตาอาหารสไตล์ใหม่เป็นที่งุนงง  คนที่ว่าชอบว่าดีก็มี    แต่ก็มีที่เม้นต์ว่านี่ไม่ใช่อาหารไทย  เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์  จากวันนั้นมาถึงวันนี้  เชฟเฮนริคยังยืนหนึ่งในวงการอาหารไทยแนวร่วมสมัย   เป็นไอดอลต้นแบบที่หลายเชฟรุ่นใหม่ยกย่องขอเดินตามแนวทาง

02. Chef Henrik Yde-Andersen_Sra Bua by Kiin KiinChef Henrik Yde-Andersen  (Photo: Sra Bua by Kiin Kiin)

เชฟเฮนริค กับ เชฟเดวิด  เป็นสองคนสองขั้วที่มาบรรจบ  คนหนึ่งสไตล์ร่วมสมัย  อีกคนอาหารไทยแบบไทยไทย  อยู่กันคนละสุดทาง  ถ้าคนหนึ่งเป็นฝ่ายขวา อีกคนคงเป็นฝ่ายซ้าย   ต่างมีส่วนในการสร้างความตื่นตัวให้กับวงการอาหารไทย  ต่อยอดด้วยการเข้ามาของมิชลินไกด์ ในปี  2018  ที่เป็นอีกหนึ่งแรงกระตุ้นให้คนรุ่นใหม่หันมาสนใจอาหารบ้านเกิดที่แต่ก่อนแต่ไรแทบไม่ชายตามอง  ทั้งเป็นแรงผลักดันช่วยสร้างเชฟรุ่นใหม่อาหารไทย   หลายเชฟหน้าใหม่แจ้งเกิดอย่างภาคภูมิ   วันนี้วงการบูมมาก  คึกคักฉุดไม่อยู่ตามแทบไม่ทัน   ยกระดับอาหารไทยขึ้นแท่น gastronomy โชว์ความละเมียดละไมและความเป็นสากลให้เป็นที่ประจักษ์ดังไปทั่วโลก

(วงเล็บนิดนึง  มีคนเคยถามเชฟฝรั่ง  ทำไมถึงได้ดาวมิชลินอาหารไทย  คำตอบคือ passion รักอาหารไทย และมุ่งมั่นเสาะแสวงหาความรู้  ที่สำคัญเดาเอาว่าน่าจะเพราะมีตัวช่วย  มีคนไทยอยู่ใกล้ตัว  น่าจะให้คำแนะนำแล้ว  และช่วยชิม ติชมรสชาติอาหาร)

IMG_1697

เข้าบรรยากาศด้วย Welcome drinks มี  4 อย่างล้วนเป็นผลผลิตจากท้องถิ่น  จาก 4 ชิมไป 3

IMG_1686

ตัวแรก  Honey wine  ไวน์น้ำผึ้งดอกไม้ป่า  แอลกอฮอล์ 12 % จากเชียงดาว เชียงใหม่  รสชาติ smooth ดื่มง่าย เหมาะกับทุกโอกาส

IMG_1688

ตัวที่สอง สาเก จากเชียงใหม่ ผลิตโดยฝีมือเชฟ Black คนดัง แห่ง  Blackitch Kitchen วิธีการทำตามแบบสาเกญี่ปุ่น  หากข้าวใช้ข้าวเหนียวเขี้ยวงู ที่เป็น King of sticky rice ของไทย

IMG_1689

ตัวที่สาม เหล้าบ๊วย Umeshu จากแม่วาง  เชียงใหม่ โดยเชฟ Black เช่นกัน  ส่วนตัวที่สี่เป็น Gin  ต้องผสมค็อกเทล เลยไม่ได้ชิม

ดินเนอร์อ้อยสร้อย  ร้อยเรียง  ค่อยเป็นค่อยไป  เริ่มด้วย appetizers  5  คำ  ช่วงนี้ยังนั่งเก๋ ๆ  ที่  Salon

IMG_1694

IMG_1695

เข้า street food คำแรก Soy salted Meringue with Cashew and Thai Wasabi  มีการจัดฉากสนุกสนาน  ให้ตื่นตาตื่นใจตลอดเมนู  ตามแบบฉบับของ Kiin Kiin ในแนวของ Molecular cuisine  ที่เน้นปฏิสัมพันธ์และให้ความสนุก  เชฟเฮนริคคนนี้ยกให้เป็นเจ้าพ่อแห่ง gimmick เลย  ลูกเล่นเยอะมาก  พนักงานโชว์กล่องแบบมายากล  ต้องเคาะฝา  เมอแร็งก์จึงปรากฏ  จานนี้เป็นเมอแร็งก์ซีอิ๊วญี่ปุ่นกับเม็ดมะม่วงพิมพานต์  มีการฝานวาซาบิสดจากระยองโชว์  เวลากินจิ้มเมอแร็งก์กับโยเกิร์ตและวาซาบิที่ให้รสเผ็ดตัดหวานเมอแร็งก์ได้ดี

IMG_1696

คำที่สอง Chargrilled Vegetable Puff with Pork Cracklings  แคบหมูทอดกรอบแบบเดนมาร์ก ด้านในสอดไส้น้ำพริกหนุ่ม   รสแซบ  ง่าย ๆ  แต่ไอเดียดี

IMG_1711

คำที่สาม  นำเสนอแกงไทย 3 แบบ  คือ

IMG_1713

spring rolls สอดไส้มูสแกงเขียวหวาน

IMG_1714

แกงเหลืองสะเต๊ะไก่  แป้งด้านนอกทำเหมือนข้าวตังกรอบ  ด้านในใส่ข้าวเกรียบหนังไก่กรอบ ไอศกรีมถั่ว แอบเปิ้ลเขียวและหอมแดง

IMG_1717

สุดท้ายแกงมัสมั่น  ผสานตะวันตกตะวันออก  ใช้แกะแทนเนื้อวัว   และใช้แก่นตะวัน (Jerusalem artichoke) จากนครราชสีมาแทนมันฝรั่ง  ทำเป็นซอสเหยาะด้านบน  วางมาบนถาดปูแก่นตะวันเป็นฐาน  สวยงาม

IMG_1743

IMG_1745

IMG_1746

IMG_1763

คำที่สี่  Betal Leaf with Passion Fruit and Chilli  เมี่ยงคำในแบบฉบับดั้งเดิม ใส่เพิ่มพิเศษสูตร กินกิน คือ สับปะรด และ เสาวรส  พรีเซ็นต์สวยงาม  มีพนักงานมาคลุกให้

IMG_1748 IMG_1749

IMG_1747

IMG_1752

จบคำนี้  มีคั่นเวลา  ให้ลุกไปเยี่ยมเยี่ยนเชฟและทีมงานในครัว  ชมการเตรียมเมนคอร์สที่จะได้กินในอันดับต่อไป และให้ชมแผนผังที่มาของวัตถุดิบมื้อนี้ที่เป็น  Thai terroir

IMG_1754

IMG_1757

เข้าโต๊ะด้วย  appetizer  สุดท้าย  เป็นเจลลี่ดอกอัญชัน  เบญจมาศ  มังคุด  และรากบัวดอง  คำเล็กนิดเดียว  วางมาในใจกลางดอกบัว  เสิร์ฟท่ามกลางหมอกควันของสระบัว

IMG_1753

จากนั้นเข้าเมนู “Whispers of the Land”   ในชื่อไทยว่า “เส้นทางแห่งวัตถุดิบไทย”  กระซิบความอร่อย  พร้อมไวน์แพริ่งดีงาม

IMG_1759

IMG_1760

IMG_1761

จานแรก  ‘Kaeng Hed’ Wild Mushroom แกงเห็ดใบย่านาง  แกงเห็ดสไตล์อีสานใส่ปลาร้าใบย่านาง  ผสาน coconut sphere  ที่เห็นเป็นก้อนสีขาว ซึ่งก็คือกะทิ  เนื้อออกนิ่ม ๆ เพิ่มความครีมมี่ในซุปแบบ western  แม้จะเป็นซุปใส  หากรสเข้มข้น  และทั้งนุ่มละมุนลิ้น   อร่อยมาก  เสิร์ฟพร้อมซาลาเปาสอดไส้ครีมเห็ด รสบาง ๆ  ให้เคียงกับซุปรสเข้ม

IMG_1758

ไวน์แพร์เป็น Granmonte  Viognier 2024  ไวน์ไทยชื่อเสียงระดับโลก บ่ม French Oak 1  ปี มีความ buttery  เข้ากับซุปเห็ดที่มีกะทิได้ดี

IMG_1765

IMG_1766

IMG_1768

IMG_1769

จากซุปมาสลัด  Beef ‘Yum’ Baked Tomato ยำมะเขือเนื้อย่างเตาถ่าน  อุปกรณ์พร้อม พนักงานย่างเนื้อให้ดูถึงที่  ใช้เนื้อวากิวไทยชั้นดีจากขอนแก่น  เรียกชื่อว่า jasmin wagyu  เพราะเจ้าของฟาร์มเลี้ยงวัวด้วยข้าวหอมมะลิ  เป็นเนื้อพิเศษจริง ๆ เพราะมีจำนวนน้อย  เคียงสวยงามด้วยมะเขือเทศ  3 สี อบนิดเดียวเพื่อเอาผิวออก  และไอศกรีมเซเลอรีผสมมะนาว  กลิ่นเซเลอรีเข้มมาก  บวกความฉ่ำมะเขือเทศ  และน้ำยำรสกลาง ๆ  ชูรสเนื้อย่างหอมกลิ่นรมควันได้เลิศ  อร่อยมากจานนี้

IMG_1762

จับคู่กับ Achillée  Gewurztraminer เป็น  Orange wine จากแคว้นอัลซาส ฝรั่งเศส  acidity ปานกลาง  มีเดียมบอดี้  match กับมะเขือเทศ เนื้อย่าง และกลิ่นหอมรมควันได้ดี

IMG_1772

IMG_1774

ต่อด้วยปลา Seabass ‘Sam Ros’ with Edible Fern Tempura  ปลากระพงสามรสสไตล์สระบัว บาย กิน กิน  จานนี้เชฟเบิ้มน่ารักมาก  ออกมาเสิร์ฟเองเลย  ปลา Seabass  ทอดกรอบจากชลบุรี  เสิร์ฟพร้อมผักกูดสองแบบ คือ ยำ และชุปแป้งทอด ส่วนซอส 3 รส ทำเป็นโฟมมีความครีมมี่ รสออกเปรี้ยว หวาน เผ็ด

IMG_1773

ไวน์แพร์เป็น Cotes de Provence Rose 2023, Chateau d’Esclans Whispering Angel รสเข้ม คอมเพล็กซ์  หอมกลิ่นสตรอว์เบอร์รี่  เข้ากันได้ดีกับปลาทอด

IMG_1783

IMG_1784

ถัดมา Phuket Lobster Hor Mok ห่อหมกกุ้งล็อบสเตอร์  จานนี้เป็น curry เสิร์ฟมาถ้วยแก้วใส  ลอบสเตอร์ภูเก็ต ลวกแล้วต้มในเนย  วางมาบนซอสพริกแกงห่อหมกทำเป็นเลเยอร์ ด้านล่างสีขาวคือไข่ตุ๋นเสริมความละมุน  ท็อบด้านบนด้วย บิสก์โฟม

IMG_1781

จับคู่กับ Sancerre Blanc, Pascal Jolivet 2023 ไวน์ดังจากแคว้นลัวร์ ฝรั่งเศส   สดชื่น acidity  มิเนอรัลดี

IMG_1786

IMG_1787

IMG_1789

เมนคอร์ส  ‘Pa Lo’ Smoked Duck and Duck Liver, Baked Jasmine Rice เป็ดพะโล้รมควัน  ดึงแรงบันดาลใจมาจากเป็ดพะโล้ เยาวราช เสิร์พเก๋  พร้อม 5  spices  หรือเครื่องเทศ 5  อย่าง  (ให้ชม)  เมนูผสานเป็ดบาร์บารีจากคลองไผ่ฟาร์มเขาใหญ่ กับฟัวกราส์  และสละจันทบุรี  ด้านบนคลุมด้วยเจลลี่ทำจากซุปพะโล้  แต่งหน้าด้วยก้านสติ๊ก อบเชย และ หัวไชเท้าฝรั่งดอง  ชอบใจจานนี้เป็ดพะโล้กับฟัวกราส์ดีงาม  เคียงชื่นมื่นด้วยข้าวหอมมะลิอบกุนเชียงไก่ รสชาติดีมาก

IMG_1785

ไวน์แดงเป็น Beaujolais,  La Closerie des Thorins 2020, Moulin-a-Vent สายพันธ์ Gamay  มีเดียมบอดี้  acidity ดี หอมกลิ่นผลไม้แดงอย่างเชอรี่  แทนนิน smooth   ออกแนว fruity  นิดนึง ตัดความมันของเป็ด  ตัวนี้ดีกินอร่อย

IMG_1793

IMG_1794

IMG_1796

IMG_1810

Pre dessert ก่อนของหวาน  Amphawa Coconut Ice Cream with Hua Hin Caviar  ผสานไอศ กรีมมะพร้าวอัมพวา  กับคาเวียร์หัวหิน  เสริมด้วยแมคาเดเมียจากเลย  ทั้งแบบน้ำมัน   และแบบฝานเป็นชิ้นโรย  จานนี้เริด

IMG_1814

ของหวาน  White Lotus  ดอกบัวขาว  คริสปี้เมอแร็งก์ ทำเป็นกลีบดอกบัว  ด้านในมี 3 เลเยอร์  จากล่าง เค้กส้ม   ไอศกรีมวานิลลา (วานิลลาเชียงใหม่)  และเชอร์เบทเสาวรส   ในถ้วยด้านข้างเป็นโฟมเสาวรสกับ orange compote

IMG_1812

แพร์โดนใจกับ Sauternes ไวน์หวานเลื่องชื่อของโลก เป็น La Chapelle de Lafaurie-Peyraguey  2016   acidity  ดี  หอมกลิ่นน้ำผึ้ง ลูกแพร์  สดชื่น สดใส

IMG_1815

สุดท้าย  Petit Fours  สนุกสนานตามแบบฉบับของ Kiin Kiin  เสิร์ฟในคอนเซปต์ของเกมส์ Hide-and-seek  ให้มองหา  มีอย่างละ 2 ชิ้นที่กินได้

IMG_1819

เริ่มจาก พริกกะหรี่ยง ดาร์กช็อกโกแลตจากเชียงใหม่รสพริก

IMG_1820

มะแขว่นดาร์กช็อกโกแลต

IMG_1818

Rhum on the rocks กาแฟคั่วผสมดาร์กช็อก

IMG_1817

และ edible pearl  ไข่มุกทานได้ข้างในเป็นกาแฟ

เมนู  “Whispers of the Land”
มื้อกลางวัน  2,200 บาท++ สำหรับแบบสามคอร์ส
มื้อกลางวันและมื้อค่ำ 3,600 บาท++ ต่อท่าน สำหรับแบบห้าคอร์ส
และ  4,600 บาท++ ต่อท่าน สำหรับแบบเจ็ดคอร์ส
ราคาไม่รวมไวน์แพริ่ง

สอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่ง โทร 02 162 9000 หรือ อีเมล dining.siambangkok@kempinski.com

IMG_1790

IMG_1750

IMG_1751

IMG_1705

IMG_1700

IMG_1702

IMG_1701

Related posts: