7th edition of Galleries Night by the French Embassy
สถานทูตฝรั่งเศส และ สมาคมฝรั่งเศส (Alliance Française) ประเทศไทย จัดงานแกลเลอรี่ ไนท์ ครั้งที่ 7 โดยมีหอศิลป์และแกลเลอรี่กว่า 60 แห่งทั่วกรุงเข้าร่วมโครงการ จัดกันร่วม 2 วัน เต็ม หรือจะว่า 2 คืนเต็มก็ว่าได้ โดยค่ำคืนแรก กำหนดเส้นทางแกลเลอรี่ย่านถนนเจริญกรุง สีลม และสาธร ส่วนวันที่สองมีถนนสุขุมวิทเป็นเส้นทางหลัก
วันแรกของแกลเลอรี่ไนท์ ลุยไป 7 แห่ง เริ่มกันที่ Alliance Française เจ้าภาพร่วมของงานเป็นแห่งแรก โดยเอกอัครราชทูตฝรั่งเศส ฌัก ลาปูฌ (Jacques Lapouge) ให้เกียรติมาร่วมเดินชมดูงาน สนุกสนานเหมือนหลุดไปอยู่อีกโลก กับนิทรรศการภาพเขียน VR ในแบบ 360 องศา ต้องใช้แว่นพิเศษดู จับมาได้แต่ภาพคนใส่แว่นชมงาน ส่วนภาพที่มองเห็นผ่านกล้องจับต้องไม่ได้ เลยไม่สามารถเก็บมาฝากกัน ตามด้วยการชมภาพยนตร์สั้น VR ผู้สนใจมาลงชื่อต่อคิวกันคึกคัก นั่งคอยชมภาพยนตร์ที่ชนะการแข่งขัน และเข้ารอบรวม 4 เรื่อง แน่นอนว่าต้องชมผ่านแว่น VR เท่านั้น
ต่อด้วย Woof Pack ของ เจ และจริยดี สเปนเซอร์ อยู่ใกล้ ๆ ซอยศาลาแดงนี่เอง ชมผลงานจัดแสดงของ Tul Waitoonkiat ทั้งแวะทักทายคนรู้จักและจิบไวน์ ณ พื้นที่บาร์หน้าห้อง Screen Room ที่ครึกครื้นเช่นเคย
จากนั้นมุ่งหน้าไปซอยสวนพลู ต่อกันที่ SmArt Gallery (smalls bar) บรรยากาศที่นี่แปลกดี เป็นทั้งบาร์และแกลเลอรี่ คึกคักตั้งแต่หน้าบ้านยันชั้นสอง จนอยากจะอ้อยอิ่ง หากต้องทำเวลา เหลือเดินสายอีกหลายแกลเลอรี่ จำใจต้องจากลา พร้อมปลอบใจตัวเองว่าวันหลังค่อยแวะไปใหม่
ถัดไปใกล้ ๆ ในซอยสวนพลูเช่นกัน ยานณกาล (Yarnnakarn) โชว์งานเพ้นบนเซรามิก ในชื่อ Shades The Solo exhibition โดยศิลปินดัง ธนชัย อุชชิน หรือ ป๊อด โมเดิร์นด็อก ที่ยิ้มแย้มแจ่มใสมายืนคุยและคอยต้อนรับแขกด้วยตัวเอง น่ารักมาก ๆ ปะหน้ากับ พิซซ่า ทฤษฎี ณ พัทลุง นักประพันธ์ ดนตรีและวาทยกรชื่อดังระดับโลก ที่มาชมงานเช่นกัน เลยดึงตัวมาถ่ายภาพร่วมกัน ก่อนจะขึ้น roof top พักเหนื่อยกันหน่อย ดร้ิงไปฟังเพลงดีเจไป สำราญใจ
ตะลุยกันมาค่อนคืน ใกล้เวลาปิดงานเข้าทุกที ช่วงสุดท้ายเลยชวนกันไปต่อที่นราธิวาส ซอย 22 เรียกกันง่าย ๆ ว่า N22 ย่านช่องนนทรี ที่นี่เป็นจุดรวมของแกลเลอรี่ 4 แห่ง แม้จะดึกดื่น ผู้คนยังคึกคักใช้ได้ ประมาณว่าไม่ไล่ไม่เลิก
แห่งแรก Artist+Run แสดงผลงานจิตรกรรมของศิลปินรุ่นใหญ่ ไทวิจิต พึ่งเกษมสมบูรณ์ ตามด้วย Gallery Ver นำเสนอผลงานของ ไทวิจิต เช่นกัน หากแห่งที่สองเป็นงานประติมากรรม ในชื่อว่า “The Leftover” ผลงานสร้างสรรค์จากของรีไซเคิล
ติดกันข้าง ๆ ด้านซ้ายคือ Gallery Cartel แวะเข้าไปนิดนึง มาถึงที่ทั้งที ไปให้ครบ และสุดท้ายของค่ำคืนนี้ ทางด้านขวาของ Ver คือ Gallery Tentacles ชมผลงานภาพถ่าย River Rituals โดย Ramesh Ramakrishnan พร้อมจิบยาดองดีกรีสุดแรง ที่น้อง ๆ บอกว่าตอนนี้กำลังอินเทรนด์กลายมาเป็น social drinks เป็นที่นิยม เอาว่าเชื่อน้องก็แล้วกัน
ก่อนอำลาจากกันค่ำคืนนี้ มาจบลงที่โต๊ะหน้าแกลเลอรี่ ชิมเนื้อย่าง French – Thai อร่อยสุดฟิน โดยฝีมือปรุงของศิลปินหนุ่มน้อยและหุ้นส่วนหนึ่งในสี่แกลเลอรี่ ที่เป็นทั้งนักชิมและเลิฟการครัว งานนี้ตั้งใจสุดชีวิตมา entertain ผู้ชมงาน ยืนปิ้งเนื้อให้ชิมฟรีไม่มีค่าใช้จ่าย งานนี้เข้าทางเราเลย ได้ชิมของอร่อยอิ่มท้องก่อนกลับ เรียกว่าปิดท้ายกันชื่นมื่นสุดเพอร์เฟค
วันที่สอง เดินสายสุขุมวิท เก็บแกลเลอรี่ไปอีก 7 แห่ง สะดวกสบาย ด้วยรถตุ๊กตุ๊กที่ให้บริการฟรี วิ่งไปกลับตามเส้นทางระหว่างแกลเลอรี่ที่เข้าร่วมงาน
ตั้งต้นที่ Subhashok The Art Centre ชมนิทรรศการ Ancestral – Facade โดย Songwoot Kaewvisit งานภาพวาดที่ได้รับแรงบันดาลใจจาก บ้านสไตล์จีนผสานอีสาน ของชุมชนชาวจีน สร้างในปลายรัชกาลที่ 5 ในจังหวัดอุบลราชธานี และยโสธร
ส่วนชั้นบนเป็น Human Horizon โดยสี่อาร์ติส คือ Lisa Anderson, Ho Hao, Song Xi และ Sittikorn Khawsa-Ad
Galerie Oasis โชว์ผลงานภาพถ่าย ในชื่อ Golden Hour หรือ ชั่วโมงทอง โดย Cyrus Tang
Case Space Revolution งาน collage ของ Gary-Ross Pastrana
WTF Gallery & Cafe งานภาพวาดดึงแรงบันดาลใจจากจินตนาการใสๆ วัยเด็ก ของ Top Changtrakul
สุดท้ายเก็บต่ออีก 3 แห่ง Iconic Studio สุขุมวิท 53 Green Lantern และ Pallette Artspace ทองหล่อ