Lapérouse, Paris
ร้านนี้แปลกดี ชื่อว่า Lapérouse (ลาเปรุส) ตั้งอยู่ในเขต 6 ฝั่งซ้ายของกรุงปารีส ตกแต่งในโทนแดงชมพูหวานแหววแบบไม่ยั้งมือ ถ้ามาเปิดในบ้านเราช่วงวาเลนไทน์คนคงจองตรึม
ที่ชอบคือเป็นร้านเก่าแก่ตามแบบฉบับของร้านจำนวนมากในปารีสที่ยังหลงเหลือและฝรั่งเศสเก็บรักษาไว้เป็นอย่างดี ด้วยความที่เปิดมานานประวัติความเป็นมาจึงเยอะไปหมด
ก่อตั้งขึ้นในปี 1766 หรือสองร้อยกว่าปีมาแล้ว แรกเริ่มเป็นร้านขายไวน์แต่มีอาหารเสิร์ฟให้กิน เมื่อไวน์ดีอาหารอร่อย จึงมีลูกค้ามากมาย เจ้าของจึงเริ่มเปิดห้อง “แม่บ้าน” ชั้นสองให้เป็นที่พัก เป็นห้อง หรือ ซาลงขนาดย่อม ๆ นั่นคือจุดกำเนิดของ Les petits salons de Lapérouse หรือ ซาลงเล็ก ที่ขึ้นชื่อของลาเปรุส
1866 ร้อยปีต่อมา เข้าสู่ยุคใหม่กับ Jules Lapérouse (จูลส์ ลาเปรุส) ที่ตั้งเป้าหมายไว้สูง ทั้งความเป็นเลิศด้านอาหาร การบริการ และบรรยากาศหรู ซึ่งประสบผลสำเร็จ ร้านดังระเบิด ต้อนรับทั้งเหล่าไฮโซของยุคสมัย รวมทั้งปัญญาชนคนดัง จนกลายมาเป็นแหล่งรวมพลนักเขียนวรรณกรรมชื่อก้องโลก อาทิ Emile Zola, Charles Baudelaire, Georges Sand, Guy de Maupassant, Alfred Musset, Gustave Flaubert รวมทั้ง Victor Hugo (วิกตอร์ อูว์โก) เจ้าของบทประพันธ์โด่งดัง The Hunchback of Notre-Dame ที่ฮอลลีวู้ดนำไปทำเป็นภาพยนตร์ และ Les Misérables ที่มีคนนำไปทำทั้งหนัง และละครเพลง musical
ในช่วงเวลาเดียวกันนี้ Escoiffier เชฟโด่งดัง ที่ต่อมาได้ชื่อว่าเป็นปรมาจารย์ผู้ทิ้งมรดกทางการครัวที่สำคัญไว้ให้โลกหลายอย่าง และ ยังได้ฉายา “king of chefs and chef of kings” มาประจำเป็น head chef ที่นี่ จน Lapérouse ดังสุด ๆ กลายมาเป็นหนึ่งในร้านอาหารที่เลิศที่สุดของปารีส ผู้ดีศักดินาก็มา นักธุรกิจก็มา รวมทั้งนักการเมือง
ที่มาเดินกระทบไหล่อวดโชว์ตัวตามเทรนด์ก็มาก แต่ที่มาแบบหลบ ๆ ซ่อน ๆ ไม่ให้ใครรู้ก็เยอะ ก็ petits salons (เปอติ ซาลง) หรือซาลงเล็กที่เล่าไว้ข้างบนนี่แหละเป็นเหตุ เลื่องชื่อว่าเป็นห้องนัดพบแบบส่วนตัวหรือ secret rendez-vous ที่โด่งดังแห่งยุค นักการเมืองและอื่น ๆ มาใช้บริการซาลงนี้กันคึกคัก ยามมี “นัด” ลับแบบไม่ต้องการให้ใครรู้เห็น
ตอนเดินชมร้าน พนักงานพาขึ้นลงบันไดสองทาง คือขึ้นทาง ลงอีกทาง เดินแล้วงง แต่เข้าใจเลยว่า ใช้เป็นทางหลบหลีกกันภัยได้เยี่ยม ผ่านซาลงเล็กหลายห้อง กระจก เฟอร์นิเจอร์และของตกแต่งหลายอย่างยังคงอนุรักษ์ไว้จากยุคก่อน ที่นี่นอกจากจะใช้เป็นที่นัดพบลับแล้ว มีห้องหนึ่งที่พนักงานเล่าว่านักเขียนยิ่งใหญ่อย่าง Victor Hugo (วิกตอร์ อูว์โก) ชอบมานั่งปั่นต้นฉบับเงียบๆ ที่นี่
ยุคปัจจุบัน เชฟใหญ่คือ Jean-Pierre Vigato วันไปเชฟใหญ่ไม่อยู่ ส่งเชฟผู้ช่วยหน้าตาจิ้มลิ้มมาดูแลแทน