หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย จำลองบรรยากาศคริสต์มาส
โชว์ไฮไลต์ “บงชูร์ เฟรนช์ แฟร์ 2017”
มร.โทม่า ซานเชส และ สุกัญญา เอื้อชูชัย แห่ง หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย เตรียมจัดงาน บงชูร์ เฟรนช์ แฟร์ 2017 มหกรรมแสดงสินค้าฝรั่งเศสที่ใหญ่ที่สุดแห่งปีที่จะจัดขึ้น ระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคมนี้ ที่ ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์
มร.โทม่า ซานเชส รองประธานหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย เปิดเผยว่า “งาน บงชู ร์เฟรนช์ แฟร์ 2017 ที่หอการค้าฝรั่งเศส -ไทย จัดขึ้นเป็นปีที่ 15 โดยปีนี้เราจะจัดภายใต้ธีม Oh La La Christmas Market (โอ ลั้ล ล้า คริสต์มาส มาร์เก็ต) บรรยากาศตลาดกลางแจ้งในช่วงฤดูหนาว โดยมีสินค้า อาหาร และผลิตภัณฑ์ส่งตรงมาจากฝรั่งเศสและยุโรปมากกว่า 90 บูธ อาทิ น้ำหอม, เครื่องสำอาง,เครื่องประดับ, ของตกแต่งบ้าน รวมไปถึงความอร่อยระดับพรีเมี่ยมจากอาหารหลายประเภท อย่าง ชีส, แฮม, ขนมปัง, ตับห่าน,ชา, ไวน์และที่พลาดไม่ได้เมนูเฉพาะเทศกาลคริสต์มาส อาทิไก่งวงกับซอสสูตรพิเศษ และการปรุงสดๆ กับเมนูที่เป็นสไตล์ฝรั่งเศสขนานแท้”
ทางด้าน สุกัญญา เอื้อชูชัย ผู้อำนวยการหอการค้าฝรั่งเศส-ไทย กล่าวเพิ่มเติมว่า“ในงานแถลงข่าววันนี้ เราจำลองบรรยากาศให้เป็น Noël (โนแอล) หรือ เทศกาลคริสต์มาสสไตล์ฝรั่งเศสซึ่งเป็นบรรยากาศแห่งความสุขและการให้โดยสมาชิกในครอบครัวของคนฝรั่งเศสจะนิยมมารวมตัวกันอย่างพร้อมหน้าในวันที่ 24 ธันวาคม หรือ ที่เราเรียกกันว่าคริสต์มาสอีฟเพื่อสังสรรค์ แกะของขวัญและรับประทานอาหารเมนูพิเศษ ที่มีเฉพาะช่วงเทศาลคริสต์มาสเท่านั้น และเนื่องด้วยธีมงานปีนี้เป็นธีมคริสต์มาส ซึ่งชาวฝรั่งเศสถือเป็นเทศกาลแห่งการให้มอบสิ่งดีๆ คืนแก่สังคม ในงานบงชูร์เฟรนช์แฟร์วันจริงปีนี้ หอการค้าฯจึงจัดโซนเพื่อรับของบริจาคสำหรับเด็กอาทิอุปกรณ์เครื่องเขียน, หนังสือเด็ก, กระดาษชิชชู่, สบู่, แชมพู, แป้งเด็ก, ครีมทาผิวสำหรับเด็ก ฯลฯ เพื่อมอบให้กับมูลนิธิเครือข่ายพัฒนาบ้านเด็ก (Kids Home Development Network Foundation) และนำไปช่วยเหลือเด็กด้อยโอกาสทั่วประเทศไทย”
สำหรับบรรยากาศภายในงานได้จำลองโต๊ะอาหารในวันฉลองคริสต์มาสของชาวฝรั่งเศสที่เต็มไปด้วยเมนูแสนพิเศษ อย่าง ไก่ชาปง หรือ ไก่งวง ไก่อบตัวโต ที่มีเนื้อหวานนุ่ม และ เค้กบุชเดอโนแอลหรือ เค้กขอนไม้ ของหวานที่ขาดไม่ได้ในวันคริสต์มาส
จากนั้นถึงเวลาที่ทุกคนรอคอยกับการเวิร์คช็อป ด้วยเมนูเรียกน้ำย่อยยอดนิยมจากฝีมือเชฟหนุ่มไฟแรง เชฟตึก-ปรเมศวร์ วีรสวัสดิ์กุลจาก ร้าน EI Mercado (เอลเมอคาโด) ที่มาสาธิตการทำเมนู Plateau de fruits de mer (ปลาโต เดอฟรุยส์เดอแมร์) อาหารทะเลสดเริ่ดหรูทานคู่กับซอสสูตรพิเศษ 2 ชนิด คือมายองเนสสไตล์ฝรั่งเศส (French Mayonnaise Sauce) โดยมีไข่แดง น้ำส้มสายชู มัสตาร์ด เป็นส่วนผสม และ ซอสหอมแดง (Shallot Sauce) ที่มีส่วนประกอบของหอมแดง ไวน์แดง และ แคร็มแฟรชที่เชฟตึกบอกว่า “ซอสทั้ง 2 แบบ อยู่ที่ความชอบในการเลือกทาน แต่เนื่องจากเมนูนี้เป็นอาหารทะเลทางแถบยุโรป รสชาติจะค่อนข้างเค็มกว่าอาหารทะเลบ้านเรา การเลือกทานกับซอสหอมแดงจะเป็นการตัดรสชาติไม่ให้เลี่ยนจนเกินไป แต่ถ้าทานกับมายองเนสสไตล์ฝรั่งเศสก็เป็นรสชาติดั้งเดิม เพิ่มเติมให้ละมุนลิ้นทานได้เรื่อยๆ” ส่วนเมนูถัดมาเป็น “Tartiflette” (ตาร์ติแฟล็ต)ปรุงจากมันฝรั่ง เบคอนหอมใหญ่ และชีสเรอโบลชง (Reblochon) ชีสที่ทำจากนมวัวของแคว้นซาวัว (Savoie) ในเขตเทือกเขาแอลป์
มาถึงเครื่องดื่มยอดฮิตอย่าง ไวน์ร้อนหรือ mulled wine(มัลด์ ไวน์)โดย เบ็ญจวรรณ วิศิษฐสรไกร ผู้เชี่ยวชาญเรื่องไวน์ จาก บริษัท กงท์เดอซิบูร์ ได้สาธิตวิธีการปรุง ไวน์ร้อน เครื่องดื่มดั้งเดิมของชาวโรมันที่นำเข้ามาในยุโรปตั้งแต่ในช่วงคริสตศตวรรษที่ 2 เป็นเมนูที่ชาวฝรั่งเศสจะนิยมดื่มในฤดูหนาว เพื่อสร้างความอบอุ่นให้ร่างกาย โดยนำไวน์แดงมาปรุงรสด้วยน้ำตาลทราย มะนาว ส้ม และเครื่องเทศนานาชนิดคือ อบเชย ปวยกั๊ก และกานพลู นำไปต้นให้ร้อนและห้ามเดือด ไม่อย่างนั้นไวน์จะแตกตัวและทำให้รสชาติขมได้ ส่วนผสมตระกูลส้มและเครื่องเทศที่ใส่ลงไป จะช่วยให้กระปรี้กระเปร่า เลือดลมดี
หากหลงใหลการดื่ม ชา ที่มีกลิ่นหอมของไวน์ อรจิรา ศรีไพบูลย์ ผู้เชี่ยวชาญการชงชา จาก บริษัท พินนาเคิล แก๊สโตร (Pinnacle Gastro) มาสาธิตวิธีชงชาและการดื่มชา 3 ประเภท ได้แก่ Winter Fairytale (วินเทอร์แฟรี่เทล) ชาดำซีลอนคุณภาพเยี่ยมจากประเทศศรีลังกา มีส่วนผสมของซินนามอน ผิวส้ม กุหลาบ กานพลู และ กลิ่นสกัดของถั่วพิสตาชิโอ Almond Dreams (อัลมอนด์ดรีม) ชาที่มีส่วนผสมของผลไม้และดอกไม้นานาชนิดจากประเทศเมืองหนาว อาทิ แอปเปิ้ลไฮบิสคัสซินนาม่อน และ เมล็ดอัลมอนด์มีรสหอมหวาน Wild Berries (ไวด์เบอร์รี่) ชาที่มีส่วนผสมของแอปเปิ้ลไฮบิสคัส กุหลาบ องุ่น กลิ่นผลไม้และดอกไม้สกัดจากธรรมชาติ เมื่อนำส่วนผสมเหล่านี้มาชงรวมกัน จะให้รสชาติที่หอมหวานสดชื่น มีกลิ่นอายของเทศกาลคริสต์มาส ไม่มีส่วนผสมของคาเฟอีน เหมาะกับทุกช่วงวัยและดื่มได้ทุกเวลาซึ่งวิธีชงชาที่ให้ได้รสชาติที่ดี ควรเทน้ำร้อนเดือดใส่ในกาแล้ว เททิ้ง เป็นการล้างเพื่อปรับอุณภูมิกา ก่อนจะชงชาแค่ 3 นาที แล้วค่อยดื่ม
นอกจากนี้ยังมีบูธสำหรับคนรักสุขภาพ กับเป็นนวัตกรรมที่ตื่นตาตื่นใจ การบำบัดด้วยความเย็น -110°C หรือ Ice Labการรักษาแนวแพทย์ทางเลือกในยุโรป เพื่อช่วยฟื้นฟูและสมรรถภาพให้ร่างกายให้กลับมาเหมือนเดิม
ปิดท้ายด้วยผลิตภัณฑ์สกินแคร์เมคอัพ และผลิตภัณฑ์ดูแลเส้นผม ในเครือ ลอรีอัล ปารีส ที่มาให้ช็อปมากมาย ในราคาลดพิเศษ 30 – 60% อีกด้วย
เตรียมพร้อมชิมและช็อปกันแบบจุใจ ในบรรยากาศคริสต์มาสได้ในงาน บงชูร์ เฟรนช์ แฟร์ 2017 ภายใต้ธีม Oh La La Christmas Market จัดขึ้นระหว่างวันที่ 14-17 ธันวาคม 2560เวลา 10.00 – 20.00 น.
ณ ห้องบอลรูม ศูนย์การประชุมแห่งชาติสิริกิติ์ โดยสามารถสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่หอการค้าฝรั่งเศส-ไทย โทร.02-650-9613-4หรือ www.facebook.com/BonjourFrenchFair
