IMG_4797

Guy Savoy, the Ultimate Paris’ 3-Michelin Starred Restaurant

033E2994-AE86-4BB5-82AF-B5548C9FAB6C

Guy Savoy (กี ซาวัว) ร้านระดับ 3 ดาวมิชลิน ก่อนหน้านี้จองมา 2-3 รอบไม่สำเร็จ  เพิ่งจะได้ก็เที่ยวนี้ เพราะตระะหนักว่าต้องจองล่วงหน้าเหมือนคนอื่น  โดยประมาณน่าจะประมาณหนึ่งเดือน  ซึ่งนับว่าไม่มาก บางแห่งต้องจองล่วงหน้ากันเป็นหลายเดือน

IMG_4704

ที่อยากเล่าก็คือ เมื่อ 2-3 ปีก่อน ไปงานท่ีฝรั่งเศส  นั่งโต๊ะร่วมกับ food critic ท่านหนึ่ง ดูท่าทางรอบรู้มาก เธอแนะนำร้านอาหารดี ๆ น่าไปชิม  ที่ปารีสหลายร้าน แต่พอถามถึง 3 ดาวมิชลิน กลับไม่ค่อยอยากตอบ เมื่อรุกหนักเข้า เธอบอกว่าไม่ใช่สไตล์มิชลิน แต่ก็ยอมให้ชื่อมา 2 ร้าน  ซึ่งหนึ่งในสองก็คือ  กี ซาวัว ปารีส (Guy Savoy Paris) โดยเชฟ Guy Savoy คนนี้นี่แหละ  เสียดายนิดหนึ่งจำไม่ได้ว่าเธอให้เหตุผลว่าอย่างไร

1BF5CBE7-27AE-4C06-9B90-B05DD4A66079

มื้อนี้ชักชวนไปกินกันกับเพื่อนชาวฮ่องกง  เป็น food  writer และ “French” blogger  ใช้คำว่า “French” เพราะเธอเลิฟทุกอย่างที่เป็นฝรั่งเศส   รู้จักกันก็เพราะไปเจอกันในงานไวน์ที่เบอร์กันดีแหล่งไวน์เลื่องชื่อของฝรั่งเศส

IMG_4709

เข้าเรื่องอาหารกลางวันกันด้วยแชมเปญ  สั่งมาจิบเป็น apéritif  ผู้รู้บอกว่าความเปรี้ยวหรือ acidity ของแชมเปญจะช่วยเรียกน้ำย่อยได้ดี  จึงมักเสริฟให้จิบก่อนอาหาร โดยปรกติร้านหรู  ร้านดัง ในฝรั่งเศสมักนำเสนอแชมเปญเป็น aperitif  และมักจะมี  3 ตัวให้เลือกตามความชอบ  ของวันนี้ตัวอื่นจำไม่ได้  ส่วนตัวที่เลือกมาเป็นระดับ Grand Cru พะยี่ห้อ Guy Savoy คือเป็นแชมเปญที่ Guy Savoy ออร์เดอร์สั่งทำโดยเฉพาะ exclusive หากินที่ไหนไม่ได้ นอกจากที่นี่  มาถึงถิ่นแล้ว  ก็ต้องแชมแปญของเขานะแหละ

E4A22E54-D0FF-43C1-BD85-EEF55CA7C9B1

ด้านอาหาร สั่งเป็นเมนูเซตลันช์  ภาพรวมจะประกอบด้วย อาหารจานแรก เมนคอร์ส และของหวาน  ชิล ๆ แบบ 3 จานจบ  แต่ขอโทษ  ขึ้นชื่อว่าสามดาวมิชลินย่อมไม่ธรรมดา  ไม่ได้ง่ายขนาดนั้น มีจานงอกจานเสริมเยอะแยะไปหมด   มื้อนี้ใช้เวลาแค่ 3 ชั่วโมง  ไม่ยาวนานมาก (วงเล็บว่า เคยกินมื้อกลางวันกว่า 5 ชั่วโมงมาแล้ว)

90146415-969F-4163-A5C4-BCF87CE0000C

ขอชื่นชมความใจกว้างของร้าน แม้จะเป็นเซ็ตเมนู  แต่ทุกจานเลือกได้ตามใจชอบจากเมนู a la carte  อยากกินจานใดสั่งไปเลย

IMG_4737

การเสริฟหรูหราสมราคา French gastronomy   ที่มีแบบแผนเฉพาะตัว  ก่อนจานแรก  มีอาหารเรียกน้ำย่อยที่เรียกกันว่า  อะมุสบุช  (Amuse bouche)  เสิร์ฟมาพร้อม ๆ กัน  2 รายการ  อันนึงใส่จานมาวางตรงหน้า  อีกจานเป็น paté เสิร์ฟมาในถาดให้ใช้ซ่อมจิ้ม  ขนาดย่อม ๆ กินแบบคำสองคำ  เป็นการเรียกน้ำย่อยและให้ชิมลางแนวทางการครัวของเชฟไปในตัว

IMG_4722

ตามมาอีกจาน  ยังคงเป็นอะมุสบุช เสิร์ฟเป็นจานที่สอง   เป็นแอสปารากัสหรือหน่อไม้ฝรั่งชนิดเขียว  วางมาบนครีม  เสริฟแบบรมควัน  เปิดฝาครอบมาควันคลุ้งกระจาย  ต่อเมื่อควันจางจึงจะเห็นว่าที่อยู่ในถ้วยคือแอสปารากัส  ทั้งสามจานที่ว่านี้ไม่ได้อยู่ในเมนู

IMG_4731

จากนั้นจึงเข้าอาหารจานแรก  เลือกซุปอาร์ติโชคกับเห็ดทรัฟเฟิล (Soupe d’artichaut a la truffe noire) เสริฟพร้อมขนมปังปิ้งปาดหน้าด้วยมูสเห็ดและทรัฟเฟิล  ช่วงนี้อากาศยังหนาวมาก ๆ  กินแล้วให้ความอบอุ่นจับใจ

IMG_4744

IMG_4740

เมนคอร์สเลือกเมนูไก่จากเมืองเบรส (Volaille de Bresse)  เป็นไก่รสชาติเลิศล้ำเลื่องชื่อไปทั่วโลก  เชฟดัง ๆ จึงเลือกใช้ เพราะเป็นวัตถุดิบชั้นเลิศ  แค่ได้ยินชื่อเมนูก็ผ่านแล้ว  ไก่พันธ์นี้ฝรั่งเศสห้ามนำออกไปเลี้ยงนอกประเทศ  แต่ส่งออกได้  มีวิธีการเลี้ยงและเทคนิคการให้อาหารแบบพิเศษ  คุณภาพจึงคับแก้ว

IMG_4747

IMG_4751

ก่อนของหวานมีเชอร์เบตล้างปาก หน้าตาจุ๋มจิ๋ม

IMG_4753

ส่วนของหวานเลือกมิลเฟยย์ (Millefeuille)  ขนมสูตรดังเดิมของฝรั่งเศส ทำเป็นชั้น ๆ แต่จานนี้ทำเป็นทรงสูง แปลกตา  อร่อยล้ำกับไอศกรีมวานิลลา

IMG_4759

ที่เลิศหรูเคียงคู่กับของหวานคือ  พนักงานยังเข็นรถเต็มไปด้วยไอศกรีมและบิสคิทมาถามว่าอยากได้อะไร เพิ่มอีก  แม้จะกินไม่ไหวแล้ว ยังขอสั่งไอศกรีมมาชิมเพิ่มอีก 2 รส  จากนั้นจึงตามด้วย petit fours  ขนมขนาดพอคำเสิร์ฟปิดท้ายพร้อมชาหรือกาแฟ

IMG_4764

AB5A1BDC-81B6-43C6-B741-028F9DE97672

E9736463-27C6-4F55-988D-CF0EC32263A5

แถมท้ายนิดนึงว่า ร้านนี้ตั้งอยู่บนชั้นสองของ Monnaie de Paris หรือ โรงกษาปณ์รัฐบาลฝรั่งเศส ห้องอาหารประมาณ 50 ที่แบ่งเป็นห้องขนาดย่อมประมาณ 5 ห้อง มีประตูเปิดติดต่อกัน หากจองล่วงหน้าและ request คงไดโต๊ะติดหน้าต่าง  มองออกไปเห็นวิวสวยงามของแม่น้ำ Seine

IMG_4776

IMG_4790

IMG_4799

IMG_4804

Related posts: