JHOL, Coastal Indian Cuisine ฉลองเปิดตัวเมนูใหม่ “The Culinary Journey: शुद्धि” ในโอกาสครบรอบ 5 ปี โดย เทสติ้งเมนู 10 คอร์ส สะท้อนวิวัฒนาการอาหารอินเดียชายฝั่งทะเล ใต้ ตะวันออก และตะวันตก ได้อย่างประณีตงดงาม
เมนู “शुद्धि” (ชุทธี) หมายถึง “การชำระล้าง” หรือ “การฟื้นฟู” นำเสนอการตีความอาหารอินเดียในรูปแบบร่วมสมัย แม้ฉีกแนวจากอาหารพื้นบ้านที่คุ้นเคย เช่น บัตเตอร์ชิคเก้นหรือ ทิกก้ามาซาลา และมีการผสมผสานวัตถุดิบคุณภาพท้องถิ่นจากไทย แต่ไม่ทิ้งซึ่งรสชาติและตัวตนดั้งเดิม ทุกจานรังสรรค์ได้สวยงามลงตัว โดย Chef Hari Nayak เชฟเจ้าของ และ Chef Gaurav Gupta
การเดินทางมื้อนี้สนุกสนาน พาทัวร์กิน 9 รัฐอินเดีย ออกสตาร์ทก็ว่าดีแล้ว ยิ่งกินยิ่งอร่อย ไฮไลท์ยกให้เมนคอร์ส 3 จานสุดท้าย เยี่ยมมาก
เรียกน้ำย่อย ด้วยตะลิงปลิงจิ้มพริกเกลือ (แบบเดียวกับบ้านเรา) ก่อนเข้าเมนูด้วย “Coastal Bites” 3 อย่าง กินกันคนละคำ
คำแรก ปู Calicut Pepper Crab (จากรัฐเกรละ อินเดียใต้) แป้งทาร์ท สอดไส้เนื้อปูจากนครศรีธรรมราช คลุกพริกไทยดำ Tellicherry เคียงด้วยส้มโอไทยทับทิมสยาม และ Coconut Pachadi ซึ่งก็คือโยเกิร์ตกับมะพร้าวหมักในสไตล์อินเดียใต้
คำที่สอง Goan Choris Pav (จากรัฐกัว อินเดียตะวันตก) ดึงแรงบันดาลใจจากสตรีทฟู้ด ขนมปังพาฟกับไส้กรอก Goan Chorizo อิทธิพลโปรตุเกส รสออกเผ็ดจาง ๆ เสริมกลิ่นมะกรูด โรยหน้าด้วยหมูหยอง
คำที่สาม Kolkata Dim’er Devil (รัฐเบงกอลตะวันตก อินเดียตะวันออก) Dim’er Devil เป็น อาหารว่างยอดนิยมในโกลกาตา ผสมผสานอาหารอินเดียและอังกฤษ ไม่แปลกใจที่แรงบันดาลใจจะมาจาก Deviled Egg ในสไตล์แองโกล-อินเดียน ไข่นกกระทายัดไส้เนื้อแพะจากมีนบุรี ห่อด้วยมันฝรั่งบด โรยหน้าด้วยมัสตาร์ด Kasundi คาเวียร์ และ แยมกระเทียม รสชาติจี๊ดจ๊าดดี
จานต่อมา หอยนางรม Fine de Claire (รัฐมหาราษฎร์ อินเดียตะวันตก) หอยนางรมเคียงด้วยมะม่วงดิบตำพริกเขียวที่เรียกว่า Thecha ด้านบนเป็นกรานิต้า หรือ น้ำแข็งใสรสทับทิม
ตามด้วย ไก่ทอด Berhampur Fried Chicken (BFC) (รัฐโอริสสา อินเดียตะวันออก) ปีกไก่ทอดสอดไส้ไก่สับ พริก และผักชี ทอดกรอบ เคียงด้วยแอบเปิ้ลเขียว แนะนำให้บีบมะนาวคาลามันซีนิดหน่อย แล้วจิ้มกินกับ JHOL Hot Sauce เป็นชัทนีย์มันฝรั่งผสมพริกและผักชี
ถัดมา Surti Anda Ghotala (รัฐคุชราต) จาก สตรีทฟู้ด สู่ เมนูหรู จานนี้อร่อยมาก ผสานไข่ scrambled egg และมาซาล่ารสเข้มข้นวางเป็นเลเยอร์ โรยไข่ต้มขูด ชีส Amul และทรัฟเฟิลฤดูหนาว เวลากินให้ใช้ขนมปังจิ้ม หรือตักซอสปาดหน้าขนมปังที่ปรุงด้วยพริกหวาน และชีสพริก (Bell Pepper & Chili Cheese Toast) จานนี้ ไข่ ขนมปัง เคียงกัน ฟินสุด ๆ
อีกจาน The Showstopper: Kundapura Ghee Roast Crab (รัฐกรณาฏกะ อินเดียใต้) Kundapura Ghee Roast เป็นอาหารชายฝั่งอินเดียที่โด่งดังจากความหอมมันของกีและเครื่องเทศเข้มข้น เมนูนี้ใช้ ปูจากนครศรีธรรมราช เสิร์ฟมาในจานเป็นกระดองปูคว่ำ ด้านในสอดไส้ 2 ชั้น เมื่อจับหงายจะเห็น ตัวแป้ง Idli คลุมอยู่ด้านบน ตามแบบฉบับอาหารย่างเนย หรือ Ghee roast ที่นิยมกินกับแป้งหรือขนมปัง ด้านล่างเป็นเนื้อปู สโลว์คุกในซอสเนยกี (Ghee) และเครื่องเทศมังคาลอร์ (Mangalorean spices) ก่อนสุดท้ายนำไปนึ่ง เสิร์ฟกับ Coconut Chutney และผง Gunpowder Podi
ล้างปาก ด้วย Pink Guava Sorbet ซอร์เบต์ฝรั่งสีชมพู โรยเกลือดำ เพิ่มความเปรี้ยวเค็มแบบขนมริมทางอินเดีย (พริก-เกลือ-น้ำตาล) รสชาติดีงาม
เข้าอาหารจานหลัก ด้วย The Feast มี 3 อย่าง เสิร์ฟแบบแชร์ เลิศรสทุกจาน กินแล้ววางไม่ลง
จานแรก ซี่โครงแกะ Malabar Lamb Ribs (ชายฝั่งมาลาบาร์) ซี่โครงแกะ Marrunga Marble จากออสเตรเลีย ตุ๋นเครื่องเทศมาลาบาร์ เสิร์ฟกับแผ่นแป้งโรตี Kalappam ที่เป็นแป้งข้าวหมักแบบอินเดียใต้
จานที่สอง แกงหมู Coorgi Pandi Curry (รัฐกรณาฏกะ) Coorg เป็นตำบลที่มีชื่อเสียง ในเรื่อง spiced pork belly curries from game hunting JHOL ใช้หมูสามชั้นจาก Sloane’s มัน 30% คือมันน้อย ไม่ต้องริชมาก ปรุงด้วยซอสเปรี้ยววิเนการ์ Kachampuli บ่มนานหนึ่งปี เสิร์ฟกับ Pathri แป้งข้าวแผ่นบาง ให้ห่อกิน เคียงด้วยเครื่องจิ้ม 3 อย่างคือ หอมเจียว ใบบัวบกมะพร้าว และ ชัทนีย์มะเขือเทศ
สุดท้าย แกงปลา Bengali Biye Bari Korma (รัฐเบงกอลตะวันตก อินเดียตะวันออก) แรงบันดาลใจจากความยิ่งใหญ่ของงานเลี้ยงงานแต่งงานของชาวเบงกาลี แกงกอร์มาปลากะพง ใช้ปลาจากสมุทรสาคร แกงรสเข้มข้นด้วยเม็ดมะม่วงหิมพานต์และดอกไม้หอม เคียงกลมกล่อมกับแป้ง Malabar Parota และข้าวหุงเนยกีกับมะม่วงหิมพานต์ที่อร่อยมาก
ของหวานมี 2 อย่าง ปิดท้ายชื่นมื่น หวานสดชื่น อร่อยทั้งสองจาน
Tender Coconut Payasam ที่มาคือขนมไหว้พระอินเดียใต้ (รัฐเกรละ) เป็นซิกเนเจอร์ เสิร์ฟมาในถ้วย ด้านบนปิดด้วยแผ่นเมล็ดงากรอบ โรยหน้าด้วยเจลลี่เสาวรส และแยมมิกซ์เบอร์รี่ ก่อนกินให้ใช้ช้อนเคาะลงไป จึงจะเจอ มะม่วงซอร์เบต์ กะทิ และนมข้นหวาน ด้านใน
Sticky Toffee Pudding (รัฐเบงกอลตะวันตก) ทำจาก Nolen Gud (น้ำตาลโตนดฤดูหนาว) เสิร์ฟพร้อมเอสพูม่าคาราเมลเค็ม และไอศกรีมวานิลลาจากกรานมอนเต้เขาใหญ่
ตามด้วย Petit Fours ขนมขนาดพอคำ กินแกล้มชาหรือกาแฟ ปิดจบสุดท้ายมื้อค่ำที่สวยงามลงตัวสมบูรณ์แบบ
สำหรับผู้ไม่รับประทานเนื้อสัตว์ ทางร้านนำเสนอเมนูมังสวิริติเป็นทางเลือกให้ด้วย กรุณาแจ้งล่วงหน้า
เทสติ้งเมนู “The Culinary Journey: शुद्धि” ของ JHOL เมนูอาหารทะเลราคา 2,200++ บาท และเมนูมังสวิรัติราคา 1,999++ บาท พร้อมตัวเลือกการจับคู่ไวน์ (1,599++) หรือการจับคู่แบบไม่มีแอลกอฮอล์ (999++)
Reservations:
Call: +66 91 704 5724, +66 2004 7174
Visit: www.jholrestaurant.com
Email: reservations@jholrestaurant.com
Facebook/Instagram: JHOL BKK