Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar By Sri Trat
Burapa Eastern Thai Cuisine สุขุมวิทซอย 11 กลับมาเปิดตัวอีกครั้ง โดยฝีมือ เชฟ/เจ้าของ แอ็ค วงศ์วิชญ์ ศรีภิญโญ Burapa เป็นสาขาน้องใหม่ของศรีตราดที่โด่งดังด้วยอาหารโฮมคุกสูตรท้องถิ่นภาคตะวันออก ความต่างคือเมนูที่นี่จะปรับยกระดับให้เป็นไฟน์ไดนิ่ง ใส่ความละเมียดละไม ตีความในแบบเฉพาะตัวของเชฟแอ็ค เน้นวัตถุดิบไทยโดยเฉพาะภาคตะวันออก ส่วนบรรยากาศปล่อยเป็นกันเอง สบาย ๆ ในนิยาม casual fine dining
อินทีเรียดีไซน์ตกแต่งเป็นตู้ขบวนรถไฟ หรูหราในแบบรถไฟ Orient Express ของยุโรปยุคก่อน พร้อมพาผู้โดยสารมุ่งหน้าตามหาของดีภาคตะวันออก ตามคอนเซปต์ชื่อร้าน Burapa
เมนูมีให้เลือกทั้งแบบ a la carte หรือตามสั่ง และแบบเซทพิเศษที่เปิดให้จองได้ล่วงหน้า ส่วนมื้อนี้เป็นเซทในชื่อ “Journey To The Wonder East” ที่ดึงไฮไลน์จากเมนู a la carte มาร้อยเรียง รังสรรค์สวยงาม โดยรสชาติเน้น ๆ คงความเป็นไทยเต็มร้อย
ออกสตาร์ท เรียกน้ำย่อย ด้วย “หอยเจาะน้ำจิ้มกระบก” ใช้ หอยเจาะ หอยนางรมไทยจากเมืองตราด ความพิเศษของหอยเจาะคือเป็นหอยตามธรรมชาติ ไม่ใช่หอยเลี้ยงดังเช่นตะโกรมขาวตะโกรมดำ เนื้อจึงหวาน ครีมมี่ มีความสด และไม่คาว หอยเนื้ออูม เคียงด้วยซอสกระบกที่ได้ชื่อว่าเป็นอัลมอนด์ไทย กลิ่นหอม มีความเผ็ดของเครื่องเทศเล็กน้อย ตามด้วยครัมเบิ้ลหัวหอมและกุ้งแห้ง ตัวนี้เสริมดีงามให้อารมณ์ประมาณเดียวกับหน้ากุ้ง
เครื่องดื่มแพร์คือ “Som-Sri” The Singleton 12 Years Cocktail ชื่อ “ส้มศรี” สื่อความหมายถึงส้มจากศรีตราด ใช้หลายตัว ผสมกับ Singleton ซิงเกิ้ลมอลต์ สก็อตช์ วิสกี้ 12 ปี เป็นค็อกเทลที่ไปได้ดีกับแอพพิไทเซอร์
อันดับสอง “ตับไก่หูเสือมันปู” เป็น twist เล็กน้อย หน้าตาฝรั่ง แต่รสชาติไทยแท้ จานนี้คือตับไก่หรือ paté ไม่มีการใช้เนย หากใช้กระบกนึ่งในหม้อหุงข้าว ทำให้เปลี่ยนเนื้อสัมผัสและลักษณะ กลายเป็นครีมข้น ๆ คล้าย peanut butter นำมาผสานในตัวตับไก่ที่หอมเครื่องเทศอ่อน ๆ จากใบหูเสือ ซอสสีส้มด้านล่างเป็นมันปูทะเล ออกแนว surf & turf ผสานผืนกับดินผืนน้ำ ส่วนตัวซอสด้านบนเป็น calamansi หรือ ส้มจี๊ดผสมน้ำผึ้ง ให้กินทุกอย่างพร้อมกันในคำเดียว จานนี้อร่อยมาก
ด้านผักเคียง มีฝักกระเจี๊ยบ ยอดมะพร้าว และ ฟักทอง ชุบแป้งทอดในแบบเทมปุระ ให้เลือกจิ้มกับปาเต้ ได้ตามใจชอบ
จานที่สาม “หมึกแดดเกาะช้าง” พิถีพิถันใช้หมึกที่ล้างด้วยน้ำทะเลเท่านั้น หมักบาง ๆ ก่อนจะส่งมาจากเกาะช้าง จานนี้เป็นหมีกย่าง ปาดหน้าด้วยซอสผักต้มหลายชนิด เคี่ยวข้น ใส่กลิ่นส้ม และสมุนไพรกลิ่นคล้ายวานิลลา ตบท้ายด้วยซอสข้าวหมากราดหน้าด้านบน ให้รสทะเลสดชื่นเป็นธรรมชาติดี
เข้าจานที่สี่ “หมี่เก้อปู” ภาคตะวันออกเรียก หมี่กะทิ หรือหมี่ขาวแกงเก้อ ตามลักษณะเครื่องแกงที่สีค่อนไปทางขาว เป็นหมี่ซั่วใส่ในน้ำกะทิและน้ำมะพร้าวออร์แกนิคที่เจ้าของไร่ใช้เวลาปรับพื้นที่นาน 20 ปี เสิร์ฟกับเนื้อปูก้อนและเนื้อปูอบ เคียงด้วยกุ้งแห้ง เลือกตัวบางเพราะรสจะชัด และหอมเจียว รสชาติดีมาก
ต่อด้วย “พล่าปลาตะมะ และข้าวเกรียบสาหร่ายไก” ใช้ปลาตะมะ ตระกูลเดียวกับ Emperor Fish ปรุงสุกโดยใช้ความเปรี้ยวและกรดผลไม้ตามแบบของพล่า หรือ Ceviche ของอเมริกาใต้ เมนูนี้คลุก แตงกวา มะเขือเทศ และพริก กับเนื้อปลา ตามด้วยน้ำซอสพริกเกลือสูตรพิเศษ ของศรีตราด/Burapa ที่ผสมด้วยผลไม้หลายชนิด เป็นสูตร secret กินคู่กับข้าวเกรียบ ทำจากข้าวหอมมะลิอบแห้งปั่นกับสาหร่ายไก ที่เป็นสาหร่ายน้ำจืดสีเขียว
เครื่องแนมอีกจาน “คางกุ้งทอด” ใช้ส่วนคางกุ้ง ตามนโยบาย zero waste ใช้หมดทุกส่วนของเชฟแอ็ค ทอดกับถั่วรสเค็ม ๆ มัน ๆ กินกับพล่าก็ได้ หรือ แกล้มกับเนื้อจานต่อไปก็ดี
เมนคอร์ส “ข้าวมันแกงพริกเนื้อซี่โครงไทยวากิว” แกงพริกผสานเครื่องแกง 2 ชนิด หอมเข้มข้นโดดเด่นด้วยกลิ่นเครื่องเทศหลายชนิด ผสานเนื้อไทยวากิวใช้ส่วนเนื้อติดซี่โครงตุ๋นนาน 8 ชั่วโมง เนื้อนุ่มเนียนแทบจะละลายในปาก รสชาติสุดฟิน กินกับข้าวมันข้าวหอมมะลิ และผักดอง กระเจี๊ยบ ไชเท้า และมะละกอดอง
เครื่องดื่มแพริ่งกับพล่าและแกงเนื้อ “Highball Tonic with garnish” อีกสูตรของ Singleton
Cleanser ล้างปากก่อนเข้าของหวานด้วย กรานิต้าส้มฉุน
ของหวาน “ขนมบันดุ๊ก” หรือเปียกปูนขาว เป็นขนมทั้งฝั่งเขมรและไทย แต่เวอร์ชั่นจะต่างกัน ปรกติเสิร์ฟพร้อมน้ำตาลเคี่ยวและถั่ว ส่วนเวอร์ชั่น Burapa ใช้น้ำตาลทรายแดงเคี่ยวในน้ำกะทิออร์แกนิคใส่ใบเตย เพื่อความหอม ตัวแป้งเคี่ยวในน้ำกะทิ ด้านบนโรยหน้าด้วยกระฉีกและถั่วตัด รสชาติหอมเนียนนุ่มละมุน เลิศมาก จิบคู่กับชาชื่อดังฝรั่งเศส “ Marco Polo ” ของ Mariage Frère
Burapa Eastern Thai Cuisine & Bar
Address: 26 Soi Sukhumvit 11, Khlong Toei Nuea, Watthana, Bangkok 10110
Contacts: Bookings & Inquires Tel: +66 (0)2 012 1423
Email: burapa_reservation@sritrat.com