พาชมโรงแรม Emirates Palace “วังอาหรับทิวาราตรี” ของอาบูดาบี เขาเล่าว่าแต่เดิมชีคเจ้าผู้ครองรัฐสร้างให้เป็นวังส่วนตัว (ไม่ทราบองค์ไหน แต่น่าจะเป็น ชีค คาลิฟา บิน ซายิด อัล นาห์ยัน องค์ปัจจุปัน) หากภายหลังเปลี่ยนใจ โปรดให้ดัดแปลงทำเป็นโรงแรมที่พักแทน
ความหรูหราสไตล์วังทำให้ Emirates Palace กลายมาเป็นโฮเตลอันดับหนึ่งของอาบูดาบีอย่างไม่ต้องสงสัย และยังเป็นหนึ่งใน tourist attraction ยอดนิยม วัน ๆ จะมีนักท่องเที่ยวมาเดินเยี่ยมชมไม่ขาดสาย ยามบ่ายเป็นแฟชั่นของคนท้องถิ่นที่จะมารวมตัวสังสรรค์นั่งจิบชากาแฟชิม afternoon tea ซึ่งรวมไปถึงบรรดาทัวริสต์ด้วย บรรยากาศลอบบี้ยามนี้จึงคักคักเป็นพิเศษ ส่วนเสาร์อาทิตย์ breakfast ที่นี่ป๊อบปูล่าสุด ๆ มีทั้งคนจองคนนั่งคอยคิวกินมื้อเช้า พลอยเบียดคิวแขกพักโรงแรมให้สะดุดไปด้วย
ตัวโรงแรม โลเคชั่นชนะเลิศ ตั้งอยู่บนเนื้อที่ 84 เฮกตาร์ (ประมาณ 525 ไร่ ใหญ่กว่าสวนลุมที่อยู่ที่ 360 ไร่) จากด้านหน้าทางเข้าลอบบี้ มองลงไปเห็นขั้นบันไดทอดยาวไปจนถึงลานต้นปาล์มและน้ำพุด้านล่าง กลางวันอุณหภูมิอยู่ที่ 41-42 องศา ไม่หาญกล้า กลัวไต่บันไดลงไปแล้วขึ้นไม่ไหว ต้องรออาทิตย์อัสดง เลยได้แต่วิวกลางคืนมาฝากกัน ส่วนด้านหลังโรงแรมติดทะเล ชายหาดทรายขาวยาวเหยียดกว่า 1 กิโลเมตร ภาพวิวทะเลเต็ม ๆ 180 องศา มองจากภาพมุมสูง (หารูปได้ในเน็ต) จะเห็นโรงแรมตั้งตระหง่านเป็นจุดศูนย์กลางบนเนินใจกลางอ่าวส่วนตัว ด้านหน้าจะเห็นสวนและสนามหญ้าอลังการ มีถนนตัดผ่านกลางจากลานน้ำพุไปสู่ถนนใหญ่เรียงรายด้วยต้นปาล์ม ส่วนด้านข้างซ้ายขวาเป็นถนนลาดขึ้นโอบล้อมสวน ใช้เป็นทางเดินรถมุ่งหน้าสู่ตัวโรงแรมในรูปของปลายพัดขึ้นไปหาด้ามสวยงามตระการตา
สถาปัตยกรรมของ Emirates Palace เป็นสไตล์อาหรับผสานแนวร่วมสมัย ตึกกลางซึ่งเป็นส่วนของลอบบี้เดินเข้าไปพื้นที่ใหญ่โต เงยหน้าขึ้นด้านบนจะเห็นระเบียงซ้อนหลายชั้น รวมทั้งเพดานรูปโดมอร้าอร่ามในโทนสีทอง ดีไซน์ใช้ลวดลายทรงเรขาคณิตที่เป็นองค์ประกอบสำคัญของการตกแต่งในแบบอาราบิค penthouse บนฟลอร์ชั้นบนสุดของส่วนนี้ถือเป็น top secret เป็นห้อง suites ที่พักและพื้นที่ส่วนตัวโดยเฉพาะของชีคเท่านั้น
ส่วนห้องพักทั่วไปรวมทั้งห้อง suites จะเป็นตึกทางปีกซ้ายขวา โรงแรมใจดี พาชมห้องสวีท ทั้งห้องธรรมดา และห้องชุดแบบมีครบถ้วนหลายห้อง รวมทั้งห้องอาหารส่วนตัว ทุกห้องตกแต่งหรูหราด้วยหินอ่อนและประดับทอง พื้นที่กว้างขวาง ห้องนอนใหญ่โตมาก แบบว่าถ้ามาน้อยคนนอนแล้วอาจมีเหงา
วัฒนธรรมร้านอาหารและการกินของที่นี่ ต่างจากบ้านเรา ไม่มี street food ไม่มีร้านอาหารริมทาง ทุกอย่างถูกยกไปไว้ในศูนย์การค้า ซึ่งรวมไปถึงร้านช็อบปิ้งต่าง ๆ ขี้เกียจออกนอกโรงแรม เลยเดินวนไป ฝากท้องตามห้องอาหารต่าง ๆ ของโรงแรม ซึ่งมีหลากหลาย ทั้งอาหารอาหรับท้องถิ่น อาหารยุโรปอิตาเลียนและเมดิเตอร์เรเนียน ส่วนเมนู hightlight ที่ไม่ยอมพลาดเป็นการส่วนตัวคือ แฮมเบอเกอร์เนื้ออูฐ
จบท้ายที่บริเวณสระว่ายน้ำและชายหาดส่วนตัว ซึ่งเป็นพื้นที่ไพรเวท เปิดให้บริการเฉพาะแขกโรงแรมเท่านั้น กว่าจะทำใจเดินฝ่าท่ามกลางความร้อนไปถึงได้ ก็แดดร่มลมตก ชายหาดเลยไม่เหลือใคร แต่ก่อนถึงชายหาด มีเต็นท์คนทะเลทรายที่โรงแรมยกมาตั้งไว้ พร้อมสัตว์เลี้ยงท้องถิ่นอย่างอูฐ และเจ้าของเต็นท์ที่คอยให้บริการเสิร์ฟชากาแฟอาหรับ งานนี้เลย enjoy ชิมทั้งชากาแฟและให้คนทะเลทรายพาขี่อูฐรอบหาด ชมวิวทิวทัศน์ที่ amazing ของอาบูดาบี