So Amazing Chefs Sunday Brunch stylishly closed the epicurean So Amazing Chefs week. Taking over the kitchen at Red Oven were 9 celebrity chefs & masters : Bobby Chinn, Andy Yang, Kai Ho, Pam Utharntharm, Peter Cuong Franklin, James Noble, Tong Nandhabiwat, Patrice and Philippe Marchand.
SO Amazing ซันเดย์ บรั้นช์ ปิดสวยงามเทศกาล SO Amazing Chefs
เป็นครั้งแรกของ SO บรั้นช์ ปรกติจะมาแนวดินเนอร์ หากงานนี้บรรยากาศสุดชิว ชอบมาก ๆ เซเลบริตี้เชฟ 9 คน ต่างมี live station ของตัวเอง มายืนปรุงอาหารยื่นให้กินแบบร้อน ๆ คนละ 1 อย่าง จะคุยก็ได้ จะถ่ายรูปด้วยก็ได้ เชฟเองพอว่างก็เดินร่อน ชิมอาหาร คุยกันเองกับเชฟ และกับแขก ส่วนอาหารดูจานเล็กนิดเดียว กินไปอย่างละจาน แต่อิ่มมาก จนไม่มีโอกาสได้ลองบุฟเฟต์ปรกติของโรงแรม
ฮาสุดงานนี้ก็ Bobby Chinn ตั้งแต่เจอหน้าพูดไม่หยุดจนกลับแบบขำกลิ้ง เดี่ยวไมโครโฟนยังแพ้ ทำหน้าที่ทั้ง entertain โชว์การทำครัวลีลาไม่เหมือนใคร เล่นกีตาร์และร้องเพลง ตุ๊กตาออสก้าร์ให้ไปเลย 10 ตัว
ด้านอาหาร So Amazing Chefs คอนเซปต์หลายจานยกระดับจาก street food ให้เป็น ไฟน์ ไดนิ่ง พิถีพิถันการปรุง และเลือกใช้วัตถุดิบคุณภาพ
“Vietnamese Street Pizza” – street style grilled rice paper pizza with “Roast Duck” – Duck leg confit , mozzarella, egg, hoisin tamarind sauce พิซซ่าแป้ง rice paper ซ้อนด้วยเลเยอร์ไข่ ตามแบบฉบับสตรีทฟู้ดเวียดนาม สอดไส้เป็ดย่างกงฟีต์ เป็ดอร่อย ซอสอร่อย
สร้างสรรค์โดยเชฟปีเตอร์ ควองแฟรงคลิ้น (PeterCuongFranklin) จากร้าน Anăn Saigon โฮจิมินห์ เวียดนาม ได้ร้บการยกย่องโดยนิตยสาร Tatler ว่าเป็น ‘Asia’s Most Influential Tastemakers of 2021’
Bun Bo บุ๋นบ่อ อาหารเส้นยอดฮิตของเวียดนาม จานนี้ signature ของ เชฟบ๊อบบี้ ชินน์ เห็นเธอหยิบผัก หยิบเส้น หยิบเนื้อหมักใส่ แล้วให้เติมเครื่องปรุงเอาเอง เหมือนก๋วยเตี๋ยวชาวบ้าน หน้าตาธรรมดามาก แถมลืมใส่พริก รสเหมือนจะจืด แต่ผสานกันแล้วอร่อยลงตัว เส้น เครื่องปรุง เนื้ออย่างดี และน้ำซุปแบบขลุกขลิกซ่อนอยู่ด้านใต้ รสละมุนมาก ผสานหวาน เปรี้ยว ร้อน เย็น
Bobby Chinn เป็นเซเลบริติ้เชฟ จากรายการโทรทัศน์ MBC Top Chef MiddleEast และ Discovery TLC’s World Cafe Series ที่มีแฟนคลับอยู่ทุกมุมโลก เคยเปิดร้านที่ฮานอยได้ระดับ 2 ดาวมิชลิน และยังรั้งตำแหน่งแบรนด์ แอมบาสซาเดอร์อาหารเวียดนาม
“Stuffed Chicken Wings, Panang Sauce” ปีกไก่ทอด นำเนื้อออก มาผัดเป็นข้าวผัด แล้วสอดไส้ไปในปีกดังเดิม ไก่ทอดได้ดีมาก ไส้อร่อย เคียงด้วยซอสแกงแพนง โดยเชฟต้อง นันทวดี นันทาภวิฒัน์ (Tong Nandhabiwat) จาก Chef Table ‘Monster by Tong’ หนึ่งในร้านอาหารท็อปของฟู้ดดี้
“Hawaiian Smoked BBQ Pork Jowl” จากบาร์บีคิวหมูกับซอสหวาน ๆ ในความทรงจำสมัยเด็กที่โรงเรียน กลายมาเป็น บาร์บีคิวหมู Iberico ชั้นดี พร้อมน้ำจิ้มแจ่วมะขามป้อมออร์แกนิคโดยเชฟแอนดี้ หยางจากร้านผัดไทยไฟทะลุ (บิบกูรม์องด์มิชลินไกด์ 2562 ถึง 2565) และ ร้าน Table 38 (หนึ่งดาวมิชลิน ปี 2562) หมูบาร์บีคิวอร่อยมาก คุณภาพวัตถุดิบดี เชฟจะให้มาสอง แต่ไม่ไหวขอชิมแค่ไม้เดียว
“Bulgogi Tempeh” chick pea หมักในซอสเกาหลี เคียงด้วยกิมจิ และเทมปุระ betel leaves จากเชฟเจมส์ โนเบิล โดยวัตถุดิบมาจาก ฟาร์มออริจิน (Ori9in farm) 500 ไร่ของเชฟเจมส์ ในเชียงใหม่
“Pork Ribs Char Siu” หมูแดง Char Siu แต่ตัวนี้ใช้ซี่โครงแทน เคียงด้วยข้าวราดผักชี กระเทียม พริกไทย และผักดอง หมูให้มาชิ้นเดียว อร่อยจนอยากเพิ่มเป็นสอง โดยเชฟคนเก่งและสวย แพม-พชิญา อุทารธรรม ทายาทห้างขายยาจีน POTONG (โพทง / 普通) ที่ปรับปรุงพื้นที่อาคารให้กลายเป็นร้านอาหารโพทง ในอาคารชิโนโปรตุกีสเก่าแก่ที่สวยงามใจกลางไชน่าทาวน์ และตามคาดการประกาศรางวัลมิชลินปลายพฤศจิกายนที่ผ่านมา ซิวหนึ่งดาวไปเรียบร้อย
“TaÏrroir Bouillabaisse” – Taiwanese Style Pumpkin Rice Vermicelli”, Shrimp, Calm, Scallop, Squid, Grouper, Rouille ซุปบุยยาเบสซีฟู้ดฝรั่งเศสผสานอาเซียน เคียงด้วยข้าวฟักทองโรยหน้าฟักทองแบบไต้หวัน และซอส Rouille ตามแบบฉบับของบุยยาเบสฝรั่งเศส โดยเชฟไคโฮ (KaiHo) จากห้องอาหาร Taïrroir ไต้หวัน มิชลินสตารร์ะดับ 2 ดาว
สุดท้าย ชีสระดับ artisan นานาชนิดกับชีสมาสเตอร์ แพทริซ (Patrice) และ ฟิลิปป์ มาร์ชองด์ (Philippe Marchand) จาก Les Frères Marchand หนึ่งในผู้ผลิตชีสเก่าแก่ที่สุดในฝรั่งเศส
