Melia Chiang Mai_Mai Signature Dish_Mai’s Samplers_1

Meliá Chiang Mai introduces ‘360° Cuisine’ Dishes at Mai Restaurant & Bar

Melia Chiang Mai_Chef Billy_1

Meliá Chiang Mai introduces ‘360° Cuisine’ Dishes at Mai Restaurant & Bar

Meliá Chiang Mai’s signature restaurant Mai Restaurant & Bar has unveiled a menu of innovative dishes created via a thoughtful cooking process designed to minimize food waste and reduce greenhouse emissions.

As part of the urban hotel’s 360° Cuisine concept, executive chef Suksant Chutinthratip (Billy) and Mai Restaurant & Bar’s Sous Chef Karn Phojun have crafted dishes, featuring produce from the urban hotel’s nearby organic farm, that use as much of every ingredient as possible. Leftovers are returned to the farm as compost and leftover cooking oil is sent to be recycled into biodiesel.

Melia Chiang Mai_Chef Karn

The menu’s recommended dish Mai’s Samplers (THB 390++) comprises tasting size portions of five different delicacies:

Melia Chiang Mai_Mai Signature Dish_Pla Salmon Nham Prik Oung_1

Crisp fried fluffy catfish and pomelo salad scented with rice field crab jus

Vietnamese sausage and edible flowers salad roll with yellow chili puree

Grilled green chili relish on crispy salmon skin

Northern Thai-style pork sausage with grilled ginger and pickled cucumber

Warm spicy tomato relish in golden-fried tortilla

Melia Chiang Mai_Mai Signature Dish_Pappardelle Soi Neur_3

The thoughtful cooking process to reduce waste is summed up by the likes of another recommended dish Pappardelle Soi Neur (THB 350++). The dish is made up of fresh homemade pappardelle with creamy khao soi curry sauce and slices of seared Australian beef sirloin, served with homemade pickled vegetables and chili oil.

“We make the pappardelle fresh on every order, the chilli paste is homemade and incorporates every part of each ingredient possible including chilli, shallot, garlic, galangal, coriander root and more. With the leftover fat trimmings from the Australian sirloin, we extract oil that we then use to make chilli oil,” Billy said.

Melia Chiang Mai_Mai Signature Dish_Phak Ob Samun Prai_1

Underscored by baked seasonal vegetables from the hotel’s organic farm topped off with pomelo zest sour cream, microgreens and fresh herb crumbles, Phak Ob Samun Prai (THB 250++) is another menu highlight.

“For this dish we only use fresh vegetables we receive from our farm each day, and the pomelo zest sour cream is made from coconut milk and leftover pomelo zest from other dishes,” Billy said.

The menu’s items start from THB 190++ and are available 6pm – 10pm Wednesday to Sunday at Mai Restaurant & Bar from 1 July 2022.

Situated on the hotel’s 21st floor affording vistas of Chiang Mai, Mai Restaurant & Bar specialises in contemporary Lanna (Northern Thai) cuisine with Mediterranean influences.

For more information and reservations, please phone Mai Restaurant & Bar on 052 090 603 or email  fb@meliachiangmai.com

Prices are subject to 10% service charge and 7% government tax.

Under the 360° Cuisine program, the hotel’s kitchen works closely with local farmers to help them improve sustainability and encourage ethical production. Meliá Chiang Mai recently partnered with ORI9IN The Gourmet Farm, a gourmet organic farm located in nearby San Sai District, to grow an array of fruits, vegetables and herbs on a two-acre plot on the broader ORI9IN property for its restaurants, bars and spa that also promote healthier eating.

The first five-star to open in Chiang Mai since the onset of the pandemic, Meliá Chiang Mai debuted on April 10 on Charoen Prathet Road. Drawing on Meliá’s Spanish origins and celebrating Spain’s famed gastronomy, the hotel’s dining landscape encompasses restaurants Mai Restaurant & Bar and Laan Na Kitchen, bars Mai The Sky Bar and Tien Pool Bar, and lounges Ruen Kaew and The Level Lounge.

โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ แนะนำอาหารรังสรรค์จากแนวคิดครัว 360 องศา ให้บริการที่ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์

ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ (Mai Restaurant & Bar) โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ แนะนำเมนูที่ประกอบไปด้วยอาหารที่รังสรรค์โดยผ่านกระบวนการคิดและการบริหารครัวเพื่อลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อมให้มากที่สุด ตามแนวคิดโปรแกรมครัว 360 องศา

เชฟ สุขสันต์ ชุตินธราทิพย์ หรือ “เชฟ บิลลี่” หัวหน้าพ่อครัวใหญ่ (Executive Chef) และ เชฟ ก้าน โพธิ์จัน รองหัวหน้าพ่อครัว (Sous Chef) ได้ร่วมกันรังสรรค์อาหารไทยภาคเหนือที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน เป็นเมนูพิเศษเพื่อให้บริการเฉพาะที่ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ อาหารทุกจานจะผ่านการคิดอย่างละเอียด ทั้งการเลือกใช้ผลผลิตและขั้นตอนการปรุงอาหาร ซึ่งเชฟจะพยายามเลือกใช้ผลผลิตจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรม และใช้ทุกส่วนของวัตถุดิบมากที่สุดเท่าที่จะเป็นไปได้มาปรุงอาหาร เศษอาหารทั้งที่เหลือจากการปรุงอาหารและการรับประทานจะถูกส่งกลับไปที่ฟาร์มเพื่อทำเป็นปุ๋ยหมัก น้ำมันที่เหลือจากการปรุงอาหาร จะถูกส่งไปรีไซเคิลเป็นไบโอดีเซล ซึ่งการรังสรรค์อาหารตามแนวคิดโปรแกรมครัว 360 องศานี้ไม่เพียงแค่มุ่งหวังเพื่อลดปริมาณขยะของโรงแรมให้เหลือน้อยที่สุดเท่านั้น แต่จะต้องมีส่วนช่วยลดผลกระทบต่อสิ่งแวดล้อม และช่วยพัฒนาการเกษตรให้เติบโตแบบยั่งยืนด้วย

อาหารแนะนำจานแรกเป็นออเดิร์ฟไหม หรือ Mai’s Samplers  ที่ประกอบไปด้วยอาหารขนาดพอดีคำ 5 ชนิดแสนอร่อย ได้แก่ ไส้อั่ว, น้ำพริกหนุ่มหนังปลาแซลมอน, สลัดโรลดอกไม้กินได้, น้ำพริกอ่องตอติลญ่า และยำส้มโอกับปลาดุกฟู (ราคา 390 บาท)

ส่วนข้าวซอยเส้นพัพพาร์เดลล์เล่กับเนื้อสันนอกลนไฟ เสิร์ฟกับผักดองเป็นเครื่องเคียง (ราคา 350 บาท) ถือเป็นอาหารพิเศษที่ต้องลองเพราะเป็นอาหารสร้างสรรค์จาก “ข้าวซอย” อาหารท้องถิ่นที่ทุกคนโปรดปรานเมื่อมาเยือนเชียงใหม่ แต่ใช้เส้นพัพพาร์เดลล์เล่ เส้นพาสต้าขนาดใหญ่ที่มักใช้ทำอาหารแบบตะวันตกทดแทนเส้นข้าวซอย ราดซอสที่ทำจากเครื่องแกงข้าวซอยรสชาติเข้มข้นตามตำรับชาวไทยภาคเหนือ ได้เป็นอาหารเหนือที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียนอย่างลงตัว

“เรานวดแป้งเพื่อทำเส้นพัพพาร์เดลล์เล่สดใหม่ทุกจาน ส่วนเครื่องแกงก็ใช้ทุก ๆ ส่วนของส่วนประกอบ อาทิ พริก หอมแดง กระเทียม ข่า รากผักชี และอื่น ๆ โขลกให้เข้ากันแบบจานต่อจาน น้ำมันที่ใช้ผัดพริก ก็เป็นน้ำมันที่ได้จากการทอดเศษไขมันเนื้อที่เหลือจากการตัดแต่งเนื้อ” เชฟบิลลี่ กล่าว

ส่วนผักอบสมุนไพร (ราคา 250 บาท)  เป็นอาหารที่เหมือนจะเป็นอาหารสุขภาพธรรมดา แต่เชฟได้สร้างสรรค์อาหารจานนี้จากผักสดประจำวันที่ส่งตรงจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรม รับประทานกับซอสกะทิสูตรเฉพาะที่มีกลิ่นหอมของเปลือกส้มโอ ให้ได้รับประทานอาหารจากวัตถุดิบคุณภาพ สดใหม่ และอุดมไปด้วยวิตามินและแร่ธาตุ ที่ทั้งอร่อยและดีต่อสุขภาพ

เชฟบิลลี่ กล่าวเสริมอีกว่า “เราได้เลือกใช้แต่ผักสด ๆ ที่ได้รับจากฟาร์มออร์แกนิคของโรงแรม เพื่อมาปรุงเป็นผักอบสมุนไพร ซึ่งในแต่ละวันอาจได้รับผักไม่เหมือนกัน ส่วนซอสก็ทำมาจากกะทิที่มีกลิ่นหอมของเปลือกส้มโอ ซึ่งเปลือกส้มโอก็เป็นวัตถุดิบเหลือใช้จากการปรุงอาหารจานอื่น”

เมนูอาหารไทยภาคเหนือที่มีกลิ่นอายของอาหารเมดิเตอร์เรเนียน มีให้บริการเฉพาะที่ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ โดยอาหารมีราคาเริ่มต้นจานละ 190 บาท

ห้องอาหารไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ ตั้งอยู่ที่ชั้น 21 โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ เปิดให้บริการ วันพุธ ถึง วันอาทิตย์ เวลา 18.00 น ถึง 22.00 น. สนใจสอบถามข้อมูลเพิ่มเติม หรือสำรองที่นั่งโทร 052 090 603 หรืออีเมล fb@meliachiangmai.com

โปรแกรมครัว 360 องศา มีเป้าหมายและวัตถุประสงค์ที่จะทำงานร่วมกับเกษตรกรในท้องถิ่นอย่างใกล้ชิดเพื่อช่วยพัฒนาการเกษตรให้เติบโตแบบยั่งยืน ส่งเสริมการผลิตแบบรับผิดชอบต่อสังคมเพื่อให้ชุมชนและห่วงโซ่อาหารแข็งแกร่งมากยิ่งขึ้น โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ ทำงานร่วมกับ ออริจิ้น เดอะกัวร์เม่ ฟาร์ม (ORI9IN The Gourmet Farm) ฟาร์มออร์แกนิคในเขตอำเภอสันทราย เพื่อปลูกผลผลิตที่ต้องการบนฟาร์มแบบออร์แกนนิคของโรงแรมฯ ที่มีพื้นที่ขนาด 5 ไร่ ไม่ว่าจะเป็นผลไม้ ผัก หรือ สมุนไพร เพื่อนำมาใช้ในการบริการอาหารและเครื่องดื่มที่ ห้องอาหาร และ บาร์ ของโรงแรม  ซึ่งรวมไปถึงการบริการทรีทเมนต์ที่ ยี่ สปา อีกด้วย

โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่ โรงแรมระดับ 5 ดาว แห่งแรกในจังหวัดเชียงใหม่ ที่เปิดให้บริการท่ามกลางสถานการณ์โรคระบาดหนักทั่วโลก โรงแรมฯ ตั้งอยู่บนถนนเจริญประเทศ ถนนสายวัฒนธรรมเก่าแก่คู่บ้านคู่เมืองของจังหวัดเชียงใหม่ ทั้งยังใกล้กับแหล่งท่องเที่ยวเชิงวัฒนธรรม แม่น้ำปิง และไนท์บาซาร์ ตลาดยามค่ำคืนที่ไม่เคยหลับใหล โรงแรม มีเลีย เชียงใหม่มีจุดเริ่มต้นจากประเทศสเปน ซึ่งเป็นประเทศที่มีชื่อเสียงด้านการปรุงอาหาร โดยมีห้องอาหารจำนวน 2 ห้อง ได้แก่ ห้องอาหาร ไหม เรสเตอร์รองท์ แอนด์ บาร์ และ ห้องอาหาร ล้านนา คิทเช่น บาร์เครื่องดื่ม 2 แห่ง ได้แก่ ไหม เดอะ สกาย บาร์ และ เทียน พูลบาร์ และยังมีห้องรับรอง (Lounge) อีก 2 แห่ง ได้แก่ เรือนแก้ว เลาจน์ และ เดอะ เลเวล เลาจน์ ซึ่งเป็นส่วนบริการพิเศษของห้องพักแบบ เดอะ เลเวลขึ้นไป

Related posts: