มื้อนี้มาชิมปูไซส์ยักษ์หนักหนึ่งกิโล ร้าน Ministry of Crab สุขุมวิทซอย 31 โดยเชฟชาวศรีลังกา Dharshan Munidasa มือวางระดับ Asia’s 50 Best Restaurants ซึ่งห้องอาหารต้นฉบับในกรุงโคลัมโบซิวรางวัลนี้มาตั้งแต่ปี 2015 โดยปีล่าสุด 2021 อยู่ที่อันดับ 29
มีโอกาสพบกับเชฟ Dharshan ครั้งแรกในงาน World Gourmet Festival โรงแรมอนันตรา สยาม ปี 2016 ท่ามกลางเชฟดังทั่วโลกที่เดินกระทบไหล่กันไปมา ทั้งฝรั่งเศส สเปน อิตาลี (รวมทั้งเชฟสามดาวอย่าง Mauro Colagreco คนดังจาก Mirazur และ Cote ที่ตอนนั้นยังได้แค่สองดาวมิชลิน) เลยอดแปลกใจไม่ได้ว่าศรีลังกามีเซเลบริตี้เชฟด้วยหรือ ว่าไม่ได้ ก็ Asia’s 50 Best การันตี เชฟดัง ร้านดัง เมนูปูโด่งดังทั้งขนาดและคุณภาพ ดินเนอร์ค่ำคืนนั้นสนุกสนานเฮฮา เป็นไฟน์ไดนิ่งที่มีผ้ากันเปื้อนให้ผูกคอ เพราะกินปูด้วยมือ
Ministry of Crab เปิดตัวในปี 2011 จุดเริ่มต้นคือประเทศสิงคโปร์นำเข้าปูศรีลังกา แล้วนำไปปรุงเมนูท้องถิ่น “The Chilli Crab” ทำให้ปูศรีลังกาเป็นที่รู้จักโด่งดังในรสชาติความพิเศษ นั่นจึงเป็นที่มาของไอเดียร้านอาหารโดยชูปูขนาดยักษ์เป็นเมนูไฮไลท์
Ministry of Crab Bangkok เป็นร้านซีฟู้ดที่เน้นวัตถุดิบพรีเมี่ยมจากศรีลังกา โดยเฉพาะปูขนาดอลังการและกุ้งใหญ่ มีการปรับมาใช้วัตถุดิบในบ้านเราบ้าง โดยยังคงเน้นที่คุณภาพและความสด ไม่มีการแช่แข็ง เชฟ Dharshan บินมาเที่ยวนี้เพื่อแนะนำ ปูดำหรือปูทะเลไทยจากสมุทรสงคราม ที่นำมาเพิ่มไว้ในเมนู เป็นปูขนาดน้ำหนักต่ำกว่า 900 กรัม ส่วนไซส์ยักษ์ 900 กรัมขึ้นไปถึง 2 กิโล ยังคงนำเข้าจากศรีลังกา
ส่วนราคาก็จะขึ้นอยู่กับขนาด ที่ร้านมีชาร์ทไซส์ของปูให้ดู ติดผนังไว้เด่นชัด ราคาโดยประมาณ เริ่มตั้งแต่ 1,100 บาทขึ้นไปสำหรับปูหนักครึ่งกิโล ไล่ไปจนถึง Crabzilla ปูบิ๊กเบิ้มขนาดยักษ์ใหญ่สุดหนัก 2 กิโล ราคาอยู่ที่ 8 พันกว่าบาท แต่ขนาดยักษ์แบบนี้จะหายากที่สุด เพราะต้องใช้เวลาอย่างน้อย ๆ 2 ปีกว่าปูจะโต
เมนูรังสรรค์โดยเชฟ Dharshan เรียกน้ำย่อยเบา ๆ ด้วย Baked Crab คล้าย ๆ ข้าวรีซอตโตใส่เนื้อปู
ตามด้วยหอย Clams ปรุงสไตล์ญี่ปุ่น ผสานเนยและ soy sauce รสสดชื่นตามธรรมชาติ เสิร์ฟพร้อม garlic bread ให้จิ้มอร่อยกับน้ำซอสจากหอย
Clay Pot Prawn Curry แกงเครื่องเทศผสานน้ำมันมะกอกอิตาเลียนและ soy sauce ญี่ปุ่น ใส่กุ้งไทยเป็นหลัก มีกุ้งใหญ่ศรีลังกาเคียงมาด้วย 2 ตัว เนื้อแน่นหนึบหนับกว่าบ้านเรามาก ใช้ช้อนตัดเกือบไม่ขาด รสเครื่องเทศเผ็ดแซบ เสิร์ฟพร้อมขนมปังปิ้งชิ้นใหญ่ กับเนยพิมพ์น่ารักด้วยสัญญลักษณ์รูปปู
จานนี้เคียงด้วยน้ำพริกศรีลังกา Pol Sambol เสิร์ฟมาในกะลามะพร้าว ปรุงด้วยมะพร้าวขูด คลุกพริก หอม มะนาว และปลาแห้งจากมัลดีฟส์ กินคำแรกไม่เจอพริก รสออกหวาน ๆ นึกไปเองว่าให้กินทอนความเผ็ดของแกงเครื่องเทศ ที่ไหนได้ กินคำที่สองเจอพริก แอบสะดุ้งเล็กน้อย เพิ่งเคยเจอ พริกจิ้มพริก รสเผ็ดของน้ำพริก ชูรสให้แกงกุ้งยิ่งเผ็ดร้อนจัดจ้าน อร่อยโดนใจ ชอบมากจานนี้
มาถึงไฮไลท์ เมนูปูสองแบบ Pepper Crab ปูพริกไทย สไตล์ศรีลังกา กับ Garlic Chilli Crab ปรุงด้วยน้ำมันมะกอกอิตาเลียน soy sauce ญี่ปุ่น และพริกในแบบเฉพาะตัวของ Ministry of Crab
ก่อนเสิร์ฟ เชฟสาธิตวิธีการแกะปูให้ดู เหมือนจะง่าย เอาเข้าจริง กระดองปูทั้งหนาทั้งแข็ง ขนาดทุบมาแล้ว ยังไปไม่รอด พนักงานต้องนำไปช่วยทุบแกะเปลือกมาให้อีกรอบ เนื้อปูหวาน เนื้ออัดแน่นสุด ๆ texture คนละแบบกับปูบ้านเรา ถ้ากินหลายคอร์ส ตัวหนึ่งน่าจะแบ่งได้ 2-4 คน แล้วแต่กินมากกินน้อย ส่วนตัวชอบ Garlic Chilli มากกว่า รสซับซ้อนนุ่มละมุนกว่าปูพริกไทย
เผื่อว่ายังไม่อิ่มท้องดี ยังมีข้าวกระเทียมสำรองตบท้ายเครื่องคาว
สุดท้ายของหวาน Coconut Creme Brûlée เป็นสูตร twist ผสานขนมเฟรนช์คลาสสิกกับมะพร้าวเอเชียบ้านเรา
สอบถามข้อมูลและสำรองที่นั่งได้ที่ Website: www.ministryofcrab.com/bangkok
Tel: 098-598-6554
Email: Reservations.bkk@ministryofcrab.com