เข้าเมนูกันด้วยชุดแรก เป็นแอพพิไทเซอร์ประกอบไปด้วย 4 จาน เริ่มด้วย ลักซา ซุปเลื่องชื่อของสิงคโปร์ที่รสชาติคล้ายกับต้มยำกุ้งชื่อระบือโลกของเรา เสริฟมาในชามประดับด้วยทรายและเปลือกหอย ที่อย่าได้เผลอตักเข้าปากเชียว เพราะหมายให้เป็นแค่เครื่องประ ดับ ไม่ได้มีจุดประสงค์ให้กิน ส่วนซุปที่กินได้ ทำมาแบบไร้เส้น ซ่อนอยู่ด้านใต้ของเม็ดทรายละเอียดสีขาว เวลากินสะดวกสบายแค่ใช้หลอดดูดขึ้นมา
ยังไม่ทันเสร็จดี จานถัดมาก็ตามมาติด ๆ เป็น ปลาหมึกย่าง มีถาดไม้ปูพื้นด้วยฟางเสริฟล่วงหน้ามาวางบนโต๊ะก่อน มองดู มีไข่ มีถ้วยใส่ซอส ให้เดากันไปว่านี่มันคืออะไร หลังจากนั้นจึงมีปลาหมึกย่างตามมา เวลากินให้จิ้มกับซอสไข่แดงที่วางมาในถาดนั่นเอง
อีกจานเป็น Oysters Tempura with Misomayo ซึ่งก็คือหอยนางรมนำไปชุบแป้งทอดแบบญี่ปุ่น ที่เรียกว่าเทมปุระ แค่คำเดียวเล็ก ๆ เรียกน้ำย่อย เคียงมาด้วยซอส Misomayo ที่เสริฟมาในเปลือกหอยเช่นเดียวกัน
แล้วตบท้ายด้วย ลักซา อีกเหมือนกัน หากเล่นกับฟอร์มและ texture ที่ต่างปรับมาเสริฟแบบโฟรเซน คล้าย ๆ แกงแดงแช่เย็น ใส่มาในกรวยให้ลิ้มชิมรสกันแบบไอศกรีม
จานที่สองเป็น หอยเชลล์ แอปเปิ้ลและ เซเรลี่ สแกลลอปที่ผ่านการหมัก นำไปเคียงกับเซเลรี่ฝานเป็นแผ่นบาง ราดด้วยน้ำยำพิเศษที่ปรุงด้วย น้ำเสาวรส และน้ำส้มยุสุที่เลื่องชื่อและราคาแพงของญี่ปุ่น ตัวเซเลรี่ให้ texture ที่กรอบ ตัดได้ดีกับความหนืดหนับของหอยเชลล์ ด้านไอศกรีมที่วางอยู่ตรงกลาง มีรสเขียว ๆ ของแอปเปิ้ล ให้ทั้งรสสดชื่นและเสริมความอร่อยให้กับจานนี้
ตามมาเป็น ต้มข่ากับเห็ด Chanterelles ซึ่งในขณะนี้เป็นฤดูกาล เชฟเข้าใจคิดให้มีลูกเล่น เสริฟเป็น 2 แบบประมาณว่าหยินหยาง สำหรับสุภาพสตรีจะเสริฟเป็นจานเย็นในแบบที่เห็นทางด้านซ้าย โดยน้ำซุปทำเป็นเกล็ดหิมะนุ่ม ๆ สีขาว ๆ ส่วนของสุภาพบุรุษ จะเป็นจานร้อน ที่เห็นทางด้านขวา ซึ่งก็คือซุปต้มข่าในแบบที่เราคุ้นเคยกัน
อันดับถัดมา คือ ผัดไทยแครอต แรงบันดาลใจมาจากผัดไทยที่โด่งดังรู้จักกันทั่วโลกของเรา นำมาประยุกต์กันนิดนึง อิงแนว vegetarian แทนที่จะใส่เส้นผัดไทย ปรับมาใช้แครอตอบเกลือ เคียงด้วยซอสมะขามใส่ตะไคร้ แล้วโรยด้วยกุ้งแห้งป่น แทนทั้งซอสทั้งกุ้งที่เป็นหัวใจของผัดไทย
จานที่ห้า หันมาใช้วัตถุดิบหรูของฝรั่งเศส ซึ่งก็คือฟัวกราส์ผสานเข้ากับขิง สมุนไพรบ้านเราที่ชาวตะวันตกชื่นชอบกันมาก ตีเป็นโฟมใส่มะนาว ร่วมกับซอสลูกพลัมรสหวาน ๆ ที่เชฟฝรั่งมักนิยมใช้เคียงและตัดกับความมันของฟัวกราส์
ใกล้เส้นชัยเข้ามาทุกที ก่อนเมนคอร์ส เป็น Lobster served with Kra Chai and Red Peppers หรือในภาษาไทยว่าผัดฉ่ากุ้งมังกร มีกุ้งมังกรเป็นวัตถุดิบหลักหั่นเป็นชิ้นเล็ก ๆ ผสานด้วยกระชายและเครื่องแกงแดง แล้วเคียงด้วยซอสเครื่องแกงแดงที่เหยาะเป็นจุดสีส้ม เล่น texture ด้วยความกรอบของข้าวเกรียบสามอย่าง คือ ข้าวเกรียบกุ้ง ข้าวเกรียบบีทรูตที่เห็นเป็นสีม่วงเข้ม และข้าวเกรียบแกงแดง
มาถึงเมนคอร์สเป็น Beef Massaman with Potatoes Five Spice, Beef Soup DIY Noodles หรือมัสมั่นเนื้อพร้อมซุป เสริฟมาเป็นที่สนุกสนาน ในสไตล์ deconstruct หรือแยกส่วน จานหลักมีเนื้อชิ้นใหญ่ กริลล์สีออกชมพูเรื่อน่าทานมาก มีซอสมัสมั่นราดเป็นพื้นรองรับอยู่ด้านใต้ ประดับด้วยผักสดและผักกรอบอยู่ด้านบน แล้วเคียงด้วยฮอสแรดิชและมันฝรั่งบดที่เห็นเป็นก้อนกลมๆ เวลากินก็ให้ตัดเนื้อไปจิ้มซอส ที่สนุกคือชามข้าวและซุปเนื้อที่เสริฟมาในถ้วยแยกต่างหาก ก่อนทานมีอุปกรณ์หลอดฉีดยาใส่เต้าหู้ ให้มาด้วย สำหรับบีบเต้าหู้ออกมาเป็นเส้น ๆ ใส่ลงในซุปกันเอาเองแบบ DIY
ทิ้งท้ายกันด้วยของหวาน 3 อย่าง จานแรกคือซอร์เบท์โหระพาและโฟมมะนาว ด้านล่างสีขาว ๆ เป็นครีมเลมอน ท็อปด้วยเชอร์เบทปรุงด้วยใบโหระพา และแผ่นกรอบตีจากไข่ขาวคล้าย ๆ เมอแรงค์ แล้วโรยโปรยปรายโดยรอบด้วยผงโหระพา
จานนี้จัดเป็นธีมดอกไม้ หรือ “Flower Shop” ใส่มาในภาชนะเหมือนผอบ แต่เปิดฝาออกเป็นสองส่วน เสริฟมาเป็นคู่ ฝาแรกทำเป็นเกล็ดสีขาวผสานมะลิและกุหลาบ ซ่อนเคเปอร์รสออกเปรี้ยวไว้ด้านใต้ ส่วนด้านบนเป็นเชอร์เบทมะลิ โรยด้วยเมอแรงค์และกลีบกุหลาบขาว ส่วนอีกฝาเป็นเลมอนกับมิ้นท์ ให้ทานล้างปาก ก่อนของหวานสุดท้าย
และสุดท้าย เป็นข้าวเหนียวกับลูกพีช ที่ดึงแรงบันดาลใจมาจากข้าวเหนียวมะม่วง ประกอบด้วยข้าวเหนียวและลูกพีชวางอยู่ก้นแก้ว ท็อปด้านบนด้วยสายไหมลูกพีชรสออกเปรี้ยว ๆ ก่อนทานเชฟนำน้ำกะทิมาราดให้ได้รสชาติครบตามสูตรข้าวเหนียวมะม่วงของหวานจานโปรดของไทยเรา
ผู้สนใจมาชิมเมนูมิชลินของเชฟเฮนริค ห้องอาหารสระบัว บายกินกิน เปิดให้บริการทั้งม้ือกลางวันและม้ือคำ่ จะเลือกเซตเมนูหรืออาหารจานเดี่ยว (a la carte) ก็ได้ อาหารจานเดี่ยวราคาเริ่มต้น ท่ี 550 บาท* เซตอาหารกลางวัน 3 คอร์ส ราคา 1,350 บาท* เซตอาหารกลางวัน 4 คอร์ส ราคา 1,500 บาท* เซตเมนูอาหารค่ำ10 คอร์ส “The Journey” ราคา 3,100 บาท* ราคาดังกล่าวต่อท่าน*ยัง ไม่รวมอัตราภาษีมูลค่าเพิ่มและค่าบริการ
สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมหรือสำรองที่นั่ง โทร021629000 หรืออีเมล์ srabua.siambangkok@kempinski.com