มื้อนี้มาชิมฝีมือ Anne-Sophie Pic เชฟหญิงระดับสามดาวมิชลินหนึ่งเดียวของฝรั่งเศส
จับรถไฟความเร็วสูง TGV จากปารีสมุ่งหน้าสู่เมือง Valence ทางตะวันออกเฉียงใต้ของฝรั่งเศส จุดหมายปลายทางอยู่ที่ Maison Pic (เมซง ปิก) ดั้นด้นมาไกล เพราะตั้งใจจริงจังอยากชิมฝีมือเชฟหญิงที่โดดเด่นที่สุดคนหนึ่งของโลก
Anne-Sophie Pic (อานน์-โซฟี ปิก) เป็นเชฟหญิงหนึ่งเดียวของฝรั่งเศสที่ติดอันดับ 3 ดาวมิชลินตั้งแต่ปี 2007 ทั้งยังได้รับเลือกให้เป็น “Best Female Chef” โดยการจัดอันดับของ World’s 50 Best Restaurants ในปี 2011
ฟลุ้ก ๆ ที่ปีนี้ Maison Pic เฉลิมฉลองวาระครบรอบ 130 ปีพอดี โดย อานน์-โซฟี ปิก เป็นทายาทรุ่นที่ 4 สืบทอดการครัวตั้งแต่รุ่นคุณย่าทวด ที่เริ่มต้นเปิดร้านอาหาร ที่ Saint-Peray ในปี 1889 ผ่านรุ่นคุณปู่ André Pic (อองเดร ปิก) เชฟโด่งดังที่สุดคนหนึ่งของยุค ที่ย้ายร้านมาเปิดที่ Valence ในชื่อ Maison Pic สร้างชื่อจนติดอันดับสามดาวมิชลินในปี 1934 จากนั้นร้านก็มีสะดุดมีขึ้นมีลง หลุดดาวไปบ้าง ได้ดาวคืนมาบ้าง จนคุณพ่อ Jacques Pic มาสานต่อและทวงสามดาวคืนในได้ปี 1973 อานน์-โซฟี เป็นลูกไม้ใต้ต้นโดยแท้ เรียนด้านธุรกิจ ไม่เคยคิดจะเป็นเชฟ แต่เมื่อกลับมากุมบังเหียนในปี 1997 ต่อจากพ่อที่เสียชีวิต สิบปีให้หลัง Maison Pic กลับมาผงาดติดอันดับสามดาวมิชลินอีกครั้ง และได้ติดต่อกันยาวนานกว่าสิบปีนับจนทุกวันนี้
ไม่แปลกใจที่เดินไปทางไหนใน Valence ทุกคนต่างพูดถึง อานน์-โซฟี ปิก ด้วยความชื่นชม
เดินเข้า Maison Pic พื้นที่ใหญ่โต แบ่งเป็นหลายห้องหลากมุม น่าจะเพราะทำเป็นห้องพักโรงแรมระดับ 5 ดาวด้วยในตัว ที่สะดุดตาคือ โต๊ะกระจกที่เป็นตู้โชว์เก็บคอลเล็คชั่นไกด์มิชลินเล่มสีแดง ตื่นเต้นมากที่เป็นบุญตาได้ชมไกด์มิชลินเล่มแรก ๆ ตั้งแต่ปี 1900 หรือร้อยกว่าปีที่แล้ว อธิบายหน่อยว่า ไกด์มิชลินมีเล่มสีเขียว (Le guide vert) ให้ข้อมูลด้านสถานที่ท่องเที่ยว ส่วน Le guide rouge หรือไกด์เล่มสีแดงที่เรารู้จักกัน จะเกี่ยวกับที่พักและสถานที่กิน
เมนูมาเป็นแฟ้มผูกโบว์อย่างเก๋ ด้านในเป็นรายการอาหารและแผ่น sheet อธิบายความเป็นมาของอาหารแต่ละจาน ร้านนำเสนอ menu degustation 3 แบบ คือ 5 , 9 หรือ 11 คอร์ส จับเวลา ต้องต่อรถไฟ บ่าย 5 โมงครึ่ง 4 โมงครึ่งควรต้องกินเสร็จ เพื่อความชัวร์ เลยเอาเมนูง่ายสุด 5 คอร์ส แต่ยังอดต่อรองไม่ได้ ขอเปลี่ยนเมนคอร์สจากเนื้อหมู Duroc มาเป็นนกพิราบ ที่ร้านก็ยอมตามให้
ระหว่างเมนคอร์ส เชฟอานน์-โซฟี เดินออกมาทักทายแขกทุกโต๊ะ กระตือรือล้น ยิ้มแย้ม โอภาปราศัย น่ารักมาก ๆ บอกไปว่าอยากขอถ่ายรูป เธอว่ารอให้กินเสร็จแล้วกัน ก่อนของหวานมีพนักงานมากระซิบว่า เชฟเชิญให้ไปพบ รีบคว้ากล้องเลย เพราะรู้ว่าเชฟให้ไปถ่ายรูป ถือโอกาสนี้จับภาพในห้องครัวมาฝากกันด้วย
ประทับใจในทุก ๆ จาน โดยเฉพาะ signature The Berlingots แป้งพาสต้าสีเขียวเข้ม flavour ด้วยชาเขียว Matcha ทำเป็นรูปพีรามิด สอดไส้ด้วย Goat cheese ซอสเป็น watercress ขิง และมะกรูด และ Mille Feuille ของหวานคลาสสิกฝรั่งเศส ทำเป็น cube สีขาว ต่อเมื่อเคาะเข้าไปด้านในจึงเห็นแผ่น Mille Feuille