“Leica” ครีเอท “Café Leitz by Pacamara”
ไลฟ์สไตล์คาเฟ่ ฮับแห่งใหม่ ของคนรักไลก้าและการถ่ายภาพ
ด้วยไลฟ์สไตล์ของคนยุคใหม่ที่เปลี่ยนไป ภาพถ่ายไม่ได้เป็นเพียงแค่บันทึกความทรงจำ แต่กลายเป็นส่วนหนึ่งที่สะท้อนตัวตนของคนรุ่นใหม่ ดนัย สรไกรกิติกูล ผู้นำเข้า “ไลก้า” แบรนด์กล้องลักชัวรี่ระดับโลก จึงจัดงานเปิด “Café Leitz by Pacamara” (คาเฟ่ ไลท์ซ บาย พาคามาร่า) ณ ชั้น M ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ ซึ่งนับเป็นแห่งที่ 2 ของโลก ถัดอันดับต่อจากร้านแห่งแรกในประเทศเยอรมัน เพื่อเปิดโอกาสให้คนรักไลก้าและคนชื่นชอบการถ่ายภาพได้มาแบ่งปันความรู้ ประสบการณ์ เทคนิคการถ่ายภาพ และเรียนรู้ฟังก์ชั่นล่าสุดของ “ไลก้า” (Leica) โดยผู้เชี่ยวชาญ
ในโอกาสนี้ มร. เจโรม โอซาโน กรรมการผู้จัดการ บริษัท เอินส ไลท์ซ จำกัด ได้ให้เกียรติเป็นประธานเปิดงาน ในบรรยากาศที่คับคั่งไปด้วยเหล่าคนดัง อาทิ 4 Leica Thailand Ambassadors นำโดย ตุลย์ หิรัญญลาวัลย์ พรพจน์ กาญจนหัตถกิจ ชัชวาล จันทโชติบุตร วิรุนันท์ ชิตเดชะ พร้อมด้วยเหล่าเซเลบริตี้ที่คุ้นหน้าคุ้นตาของเมืองกรุง ที่ต่างพร้อมใจกันมาอัพเดทไลฟ์สไตล์คาเฟ่ที่สะท้อนดีเอ็นเอ แบรนด์ไลก้า
ภายในงานยังพบกับคอลเลกชั่นเสื้อ T-Shirt ลิมิเต็ด เอดิชั่น ราคาตัวละ 1,800 บาท ที่สกรีนผลงานศิลปะการออกแบบฝีมือของ อาร์ทติสรุ่นใหม่ 4 ท่าน ได้แก่ กันตภณ เมธีกุล นักวาดภาพอิสระ อคิน กาญจนโภคิน นักวาดภาพอิสระ สปัญญ์ อินทวงษ์ นักวาดภาพอิสระ และ พรพจน์ กาญจนหัตถกิจ ช่างภาพแห่งสตูดิโอ Sixtysix Visual ที่ร่วมดีไซน์เพื่องานนี้โดยเฉพาะ
ดนัย สรไกรกิติกูล กรรมการผู้จัดการบริษัท เอลิส ไพรเวต จำกัด กล่าวว่า “Café Leitz by Pacamara (คาเฟ่ ไลท์ซ บาย พาคามาร่า) ไลฟ์สไตล์คาเฟ่สำหรับคนรักไลก้า ผสมผสานความรื่นรมย์ของชีวิตคนรุ่นใหม่ใจกลางเมือง ไม่ว่าจะเป็น การถ่ายภาพ อาหาร กาแฟ และมิตรภาพ รวมไว้ในที่เดียว เพื่อดื่มด่ำและแลกเปลี่ยนมุมมองในบรรยากาศโคซี่และรีแล็กซ์ บนพื้นที่ 214 ตารางเมตร ชั้น M ศูนย์การค้าดิ เอ็มควอเทียร์ ตกแต่งในสไตล์โมเดิร์น คุมโทนด้วยสีหลักอย่าง สีดำ สีขาว สีเทา และสีน้ำตาล ภายใต้แนวคิด “Well to Do Well to Live” ซึ่งคาเฟ่ ไลท์ซ ได้ Pacamara ผู้นำด้านธุรกิจร้านกาแฟสัญชาติไทยที่ได้รับการยอมรับในมาตรฐานจากนานาชาติมากว่า 17 ปี มาดูแลในส่วนของเครื่องดื่มและอาหารที่ถูกสร้างสรรค์ขึ้นเป็นพิเศษให้แฟนๆ ไลก้าและคนที่รักการถ่ายภาพได้สัมผัสประสบการณ์แบบไลก้าในทุกประสาทสัมผัส ทั้ง รูป รส กลิ่น เสียง และสัมผัส พร้อมมีบริการให้ทดลองใช้กล้องไลก้าจากการสัมผัสผ่านประสบการณ์ตรง นอกจากนี้ยังเป็นสถานที่การทำเวิร์กช็อปการถ่ายภาพและมีนิทรรศการแสดงภาพถ่ายผลงานศิลปินหน้าใหม่ที่น่าจับตามองจาก ของ Leica Akademie (ไลก้า อะคาเดมี) ที่ผลัดเปลี่ยนหมุนเวียนอย่างต่อเนื่องอีกด้วย”
สำหรับเมนูไฮไลต์ห้ามพลาด ได้แก่ ”Soft-Shell Crab Avocado” (ซอฟท์-เชลล์ แคร็บ อโวคาโด) ปูนิ่มทอดกรอบ รับประทานคู่กับอโวคาโดยปรุงรสหอมมัน เเละไข่ดาวน้ำ ซอสที่ให้รสชาติเผ็ด หวาน มัน อย่างศรีราชา ครีมฮอลลันเดส บาลานซ์เข้ากัน
เเต่โดดเด่นไม่มีใครเหมือน “E-San Pasta” (อีสานพาสต้า) เมนูที่ผสมผสานความเป็นเอกลักษณ์ของอาหารไทย – อีสานให้เข้ากับเสน่ห์ของอาหารอิตาเลียนอย่างเส้นพาสต้าปรุงตามเเบบฉบับอิตาลีที่เรียกว่า Al Dente หมายถึงสุกพอกรุบ ๆ ได้อย่างลงตัว กลิ่นหอมของเครื่องเทศสูตรเฉพาะที่หมักพร้อมกับปลาร้า ยกระดับความเป็นไทยสู่นานาชาติ “Crab Curry Pasta” (แคร็บ เคอร์รี่ พาสต้า) ด้วยเเรงบันดาลใจที่ได้จากขนมจีนเเกงปูของภาคใต้ เกิดเป็นพาสต้าเเกงปูรสกลมกล่อมที่ได้ลองแล้วต้องติดใจ
“Beef Gravy & Grilled Corn – Rice Bowl Collection” (บีฟ เกรวี่ แอนด์ กริลล์ คอร์น – ไรซ์ โบวล์ คอลเลกชั่น) เนื้อวากิวจากออสเตรเลีย ย่างบนกระทะ สุกกำลังดี เสิร์ฟพร้อมกับข้าวหอมมะลิร้อนๆ เพิ่มความอร่อยด้วยซอส Red Wine Reduction ที่เคี่ยวนาน 48 ชั่วโมงจนได้รสชาติซอสหนักแน่นโดนใจ “Tarte Au Citron” (ทาร์ต โอ ซีตรอง) เลม่อนทาร์ต ของหวานแสนคลาสสิกที่รสชาติหวาน มัน เปรี้ยว ครบรส
ส่วนของเมนูกาแฟและเครื่องดื่มซิกเนเจอร์ของร้าน คือ Drip: Ethiopia – Gesha Village Natural GG 2018 Lot #43 (ดริป : เอธิโอเปีย – เกชา วิลเลจ เนเชอรัล จีจี 2018 ล็อตที่ 43) กาเเฟสายพันธุ์กอรี เกชา (Gori Geisha) จากฟาร์มเกชาวิลเลจ (Farm Gesha Village) ประเทศเอธิโอเปีย ล็อตที่ 43 จากแหล่งกาแฟที่เก่าแก่ที่สุดของโลก Snow Cold Brew (สโนว์ โคลด์ บริว) เครื่องดื่มเย็น รสชาติหวานมันด้วยบาริสต้า มิลค์ (Barista Milk) ทำเป็นเกล็ดน้ำแข็ง เย็นชื่นใจ เพิ่มเทคเจอร์ด้วยกาแฟเยลลี่ ราดท็อปด้วยกาเเฟคลาสสิก โคลด์ บริว (Classic Cold Brew) กลมกล่อมด้วยรสชาติของกาแฟ หวานมันจากนม และได้รสชาติแฝงคล้ายคาราเมลในตอนท้าย Radiance Booster (เรเดียนซ์ บูสเตอร์) เครื่องดื่มเพิ่มความสดชื่นด้วย น้ำส้ม ส้มโอพันธุ์พลอยชมพู สับปะรด และมะนาว ที่ไม่ใช่เเค่เพียงได้รสชาติหวานอมเปรี้ยวตามเเบบฉบับของผลไม้รสเปรี้ยวเเบบไทยๆ เเต่ยังได้ความหอมหวานจากส้มโอพันธุ์พลอยชมพู ที่ช่วยบาลานซ์โทนเปรี้ยวใด้อย่างลงตัว Blue Ocean (บลู โอเชียน) เครื่องดื่มสีฟ้าครามน้ำทะเลเเก้วนี้ ที่ได้จากน้ำอัญชัน เพิ่มความกรุบมันด้วย นม เเละคุกกี้ เสิร์ฟกับไอศกรีมวานิลลาเคลือบช็อกโกแลต Citrus Iceberg (ซิตรัส ไอซ์เบิร์ก) ชาเอิร์ลเกรย์ อินฟิวส์ (Earl Grey Infused) จากเเบรนด์คลิปเปอร์ ที (Clipper Tea) ประเทศสิงคโปร์ ชาเกรดพรีเมี่ยม หอมละมุน เเละน้ำอัญชันในสไตล์ไทย เติมรสชาติด้วยสตรอว์เบอร์รี่ไซรัป พร้อมเพิ่มความสดชื่นด้วยน้ำมะนาว
ภายในงานมีเหล่าเซเลบริตี้คนรักไลก้าตัวจริงมาร่วมงานและแลกเปลี่ยนความประทับใจคับคั่ง เริ่มกันที่ เจย์ สเปนเซอร์ หนุ่มหล่อมาดเนี้ยบเล่าถึงความประทับใจตั้งแต่ยังเด็กว่า “ครอบครัวเราเป็นแฟนไลก้าทั้งบ้านครับ จำได้ว่าตอนเด็กๆ คุณพ่อผมมีกล้องไลก้า แล้วผมชอบมาก อยากจับ แต่คุณพ่อไม่ยอมให้จับเลยครับ เพราะท่านรักมาก โตมาพอผมมีโอกาสได้ลองใช้ไลก้าก็ประทับใจมาก เพราะเป็นกล้องที่ตำนานยาวนาน และใช้งานได้จริง ถ่ายภาพได้อย่างใจเรา ให้อารมณ์ที่คลาสสิก ผมใช้เองด้วยและให้ทีมงานที่บริษัทด้วยครับ เราทำงานครีเอทีฟเรื่องภาพถ่ายถือว่าสำคัญมาก แล้วไลก้าก็ตอบโจทย์”
พรพจน์ กาญจนหัตถกิจ ในฐานะ Leica Thailand Ambassador และช่างภาพแห่งสตูดิโอ Sixtysix Visual กล่าวว่า “งานของผมหลายชิ้นได้แรงบันดาลใจจากโฆษณาไลก้า ยุค 60 และด้วยที่ผมเองก็ใช้ไลก้า เลยรู้สึกว่า ไลก้ามีความ เพอร์เฟ็กต์ มีปุ่มน้อย แต่ถ่ายออกมาสีสวย เก็บรายละเอียดความรู้สึกได้ดี ส่วนเทคนิคการถ่ายรูปถ่ายอาหาร ต้องถ่ายอาหารอย่าให้เป็นของตาย คือ ถ่ายให้ดูมีชีวิต ผมจะชอบให้มีคนเข้าไปมีส่วนร่วมเช่น มือที่จะกำลังตักอาหาร เพราะเอาความเป็นมนุษย์เข้าไปสร้างให้ภาพอาหารมีชีวิตขึ้นมา และอีกเรื่องคือ มุมการถ่าย ถ้าเป็นสเต็กจะถ่ายมุมสูงก็ไม่เห็น ความหนาของชิ้นเนื้อ เป็นต้น”
สปัญญ์ อินทวงษ์ ศิลปินนักวาดภาพอิสระ ที่ร่วมออกแบบเสื้อ T-Shirt ลิมิเต็ด เอดิชั่น สำหรับไลก้า เผยถึง แรงบันดาลใจในการออกแบบครั้งนี้ว่า “เพราะไลก้าช่วยเก็บความทรงจำสนุกๆ ในทุกช่วงชีวิต สำหรับการออกแบบเสื้อยืด ลิมิเต็ดเอดิชั่นสำหรับไลก้าครั้งนี้เลยออกแบบมาเป็นรูปดาว ใช้ลายเส้นแบบแสงพุ่ง เพราะสื่อถึงแสงแฟลชของกล้อง และด้วยส่วนตัวทำอาชีพออกแบบตัวอักษร เลยนำข้อความมาออกแบบให้สนุกสนานสีส้มแทนแสงสว่างของกล้อง และดาวแทนแสงแฟลชเวลาถ่ายภาพ วันนี้เลยยิ่งรู้สึกดีใจมากที่ได้ร่วมงานกับแบรนด์ดังระดับโลกนะคะ ส่วนตัวก็ชอบถ่ายรูปอยู่แล้ว เพราะ การเก็บความทรงจำต่างนั้น เราเอาความทรงจำต่างๆ มาเป็นแรงบันดาลใจในการทำงานออกแบบด้วย”
“Café Leitz by Pacamara” ไลฟ์สไตล์คาเฟ่สำหรับคนรักไลก้า ตั้งอยู่บริเวณชั้น M อาคาร The Helix Quartier ศูนย์การค้า ดิ เอ็มควอเทียร์ เปิดบริการทุกวัน ตั้งแต่เวลา 10.00 – 22.00 น. สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook : Leica Camera Thailand / Instagram: @LeicaCameraThailand และ @Pacamara_TH และ Café Leitz by Pacamara โทร. 02-003-6068
