เป็นแฟนคลับ เชฟ อาร์โนด์ ดูนองด์ โซทิเยร์ มาตั้งแต่สมัยเป็น head chef ห้องอาหาร Le Normandie ตอนนี้เชพหันมาเปิดร้านของตัวเอง Maison Dunand ก็ขอแสดงความยินดี
ดินเนอร์ 9 คอร์ส ที่ Maison Dunand ร้านอาหารฝรั่งเศสเพิ่งเปิดไปหมาด ๆ ของ เชฟอาร์โนด์ อดีต head chef ห้องอาหาร Le Normandie โรงแรมแมนดารินโอเรียนเต็ล สวยงาม อร่อย ละเมียดละไม สมระดับฝีมือสองดาวมิชลิ
Theme เมนูให้ชื่อว่า From Savoie to Brittany ซึ่งหมายถึงการใช้วัตถุดิบขุนเขาจาก Savoie แถบเทือกเขาแอลป์ทางตะวันออกของฝรั่งเศส ผสาน กับวัตถุดิบท้องทะเลที่ขึ้นชื่อด้วยคุณภาพจากแคว้นบริตตานีติดมหาสมุทรแอตแลนติกทางตะวันตก
เข้าเมนู ด้วย Canapé จานแรก เป็น “Bricelet” มินิทาร์ตแบบดั้งเดิมของชาวซาวัว แต่งหน้าด้วยครีมดาชิและปลาไหลรมควัน และเจลส้มจี๊ด calamansi
ตามด้วย selection ของ Canapés 3 แบบ
จานเหลือง คือ แป้งทาร์ต สอดไส้ปลาเทราท์เคียงด้วยไข่ปลาและแผ่นดาชิรมควัน
จานแดงคือแป้ง sablé กับ พุดดิ้ง blood sausage ท็อปด้วยแอปเปิ้ล และเซเรลิแอค
ส่วนสีขาว ๆ คือ Vol au vent เมนูคลาสสิกฝรั่งเศส ด้านนอกเป็นแป้งสอดไส้เห็ดตุ๋นกับโฟมทรัฟเฟิล
ล้างปากกันด้วย Cleanser ยกมาเป็นแก้วใส่น้ำแข็งก้อนกลม ๆ แล้วเทน้ำผลไม้ใส่ น่าจะเป็นน้ำองุ่น infuse ด้วยมินท์และแตงกวา ทั้งหอม และรสสดชื่น
ก่อนเข้าเมนูจริงจัง มี Butter, Bread ยกมาตั้งเรียกความหิว ขนมปังร้านนี้อร่อย มี 4 แบบ ซาวโดวจ์ เฟรนช์บาแก็ต Rye bread และ บริออช ส่วนเนยก็ต้อง ยี่ห้อ Bordier เนย artisan เลื่องชื่อที่เรียกกันว่าเนย “สามดาวมิชลิน” เพราะเป็นเนยที่บรรดาเชฟซุปตาร์ 3 ดาวเลือกใช้ มื้อนี้มี 3 อย่าง แบบคลาสสิกไม่ใส่เกลือ รสหัวหอม และรสสาหร่ายทะเล
จานแรก Beetroot, Beaufort , Herbs บีทรูทคลุกเกลือในการปรุงสุก เคียงด้วย โฟมชีส Beaufort และปูเร่น้ำมันจากสมุนไพร
Beef, Sardines, Mirabelles ทาร์ทาร์เนื้อวัวชั้นเยี่ยม miyazaki กับปลาซาร์ดีน ห่อหุ้มด้วย black radish ฝานเป็นแผ่นบาง ทำเป็นรูปดอกกุหลาบสวยงาม ด้านบนตกแต่งด้วยเนื้อพลัมมิราเบล ส่วนซอสคอนซอมเม่ปรุงด้วยหัวหอมและพลัมมิราเบล
Caviar / Potato / Sea Urchin จานนี้เป็น signature ของเชฟ อาร์โนด์ เป็นโฟมมันฝรั่ง ผสานวัตถุดิบชั้นเลิศ ทั้งไข่หอยเม่น ซอสแชมเปญ และไข่ปลาคาเวียร์โรยหน้า เมนูนี้กินทีไรก็ฟิน
Blue Lobsters, Celeriac, Blueberry พูดถึงลอบสเตอร์ ที่เลื่องชื่อที่สุดก็บลูลอบสเตอร์จากแคว้นบริตตานีนี่แหละ เนื้อลอบสเตอร์วางไว้ตรงกลาง เคียงด้วยปูเร่ลอบสเตอร์ เคลือบด้วยปูเร่เซเลริแอคและบลูเบอร์รี่ ส่วนกลมๆ ด้านซ้าย คือเซเลริแอคเช่นกัน ซอสเป็นลอปสเตอร์บิสก์
Wild Caught Pollack, Roe, Cabbage ปลาพอลลอค สโลว์คุก เคียงกับกะหล่ำผัด ซอสกระดูกปลาเคี่ยวกับเบคอน ท็อปด้วยไข่ปลา Pike perch
เมนคอร์สมีให้เลือก ระหว่าง
Mountain Pig, Jean Paul Oyster, Seaweed เป็นเนื้อหมูภูเขาจากซาวัว เคียงคู่มากับหอยนางรม ปูเร่เห็ด Black trumpet สาหร่ายทะเล
หรือ
Bresse Pigeon, Cocoa nib, eggplant นกพิราบจากเมือง Bresse นำมาย่าง ก่อนเสิร์ฟ ใส่กล่องรมควันยกมาให้ดู เคียงด้วยมะเขือม่วงซ้อนเป็นแผ่นทำนองเดียวกับขนม Millefeuille ลูกfigue และโรยด้วย Cacao nibs
ก่อนของหวาน Chartreuse, lemon ล้างปากสดชื่นด้วย ซอร์เบท์มะนาว คลุมด้านบนด้วยเจลลี่ลิเคียวร์ Benedictine ส่วนด้านล่างเป็นข้าวพองกรอบ
ของหวาน Chocolate, Buckwheat, Mint ขนมช็อกโกแลต ผสานเมล็ดบัควีต เพื่อความกรุบกรอบ ด้านบนเป็นไอศกรีมมิ้นท์ใส่ช็อกโกแลตชิพ
ตบท้ายด้วย Mignardises ขนมหวานขนาดพอคำ กินแกล้มชาหรือกาแฟ มี Madeleine เคลือบเหล้า Absinthe, Pink praline ใส่อัลมอนด์ และ ทาร์ทมะนาวกับเมอแรงก์